The ultimate sin(ษิณ) : เพลงจัดให้ สัตว์การเมืองบาปหนา


Blowin’ in the songs
โดย : ประมวล ดาระดาษ
p_daradas@hotmail.com

โลกออนไลน์ในทัศนะคอการเมือง แบ่งออกเป็นสามฝ่ายชัดเจนครับ หนึ่งพวกไม่เอานักกานเมืองชั่ว นี่คือ กลุ่มที่มีอุดมการณ์ชัดเจน
สองพวกกลางกลวง ข้าเป็นกลาง(เจ้าของวาทกรรมสุดเท่ “โปรดให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดอย่าเพิ่งไปด่วนสรุป”-สุดท้ายบอกว่า “ถึงจะโกงบ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้พวกเขามีผลงาน เพราะทุกรัฐบาลมันก็ต่างขี้โกงทั้งเพพอกัน”)
และสามพวกรักและเลื่อมใสทุนนิยมสามานย์(เขาจะโกงบ้านโกงเมือง คอรัปชั่นหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และพวกพ้องแบบผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นเผด็จการรัฐสภา จนกระทั่งถึง แก้กฎหมายเพื่อตนเองให้พ้นความผิดจากคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม ก็ปล่อยเขาไปเถิด มองแต่ส่วนดีของเขาแบบโพสิตีฟ ธิ้งกิ้งเถิด)
บุคคลประเภทที่สามนี้ น่าจะเป็นคนจำพวกผู้เห็นโจรขโมยควายชาวบ้านรวมทั้งของตนแบบจำควายของตนไม่ได้ มาฆ่าแล้วบังเกิดอาการที่เรียกว่า “อุเบกขา” วางเฉย นักกาน(โค่นทำลาย)เมืองมันจึงสวาปามควายกันทั้งตัว และโยนเศษเนื้อสันข้างเขียงให้สามขีด พร้อมพริกขี้หนู และใบกะเพราะสองใบ พวกหน้ามึนเหล่านี้ ต่างนำมาผัดโปะข้าวสวยที่หุงจากปลายข้าว ไม่แถมไข่ดาวอีกต่างหาก เพราะไข่แพง หากทว่าเมื่อได้ลิ้มรสเศษเนื้อนั้น แล้วต่างก็มีมติว่า ว่าเป็นหนี้นักกานเมืองพวกนั้นแล้ว
รู้สึก “เอมโอช” เหลือแล้ว ประมาณแบบบุญคุณต้องทดแทน กาเบอร์ให้ไม่รู้จบสิ้น
พวกเขาเหล่านั้นจึงมีมติ 15 ล้านเสียงสวรรค์ ยอมยกแขนชูจั๊กกะแร้ ร่วมเป็นแรงเชียร์ หนึ่งเสียงมอบให้แบบประชาธิปไตยฉบับ 4 วินาที และแสดงกตเวทิตาต่อเศษเนื้อนั้น แบบพร้อมจะออกไปตายเพื่อนักกานเมืองเหล่านั้นทุกเมื่อ
ราษฎรเหล่านี้ น่าจะเป็น “ไอ้บาปหนา”(แนวร่วม)แบบมิจฉาทิฐิสุดเยียวยา พอกัน


ทางพุทธศานา สอนให้วิญญูชน มีหิริ-โอปตัปปะ คือมีความ เกรงกลัวและละอายต่อบาป บาปอะไร บาปพื้นฐานเบสิกทางพุทธ ก็คือ การละเมิดศีลห้านั่นแล
ทางคริสเตียน แบ่งบาปออกเป็นเจ็ดประเภท ในคัมภีร์เก่าอีซีเกล นั้นระบุไว้ชัด ใน นิว เทสเมนท์ ก็ต้องไปจับและค้นเอาแต่ละบริบทผู้ที่ศึกษาถ่องแท้ สามารถอ้างอิงแบบเรียกหน้าได้ก็เคยเห็นอยู่ น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่ง
บาปนั้นมีดีกรี มีขนาดและปริมาณของบาปอยู่ เป็นบาปแบบเบาบาง จนกระทั่งบาปหนา แบบตายไปแล้ว ไม่น่าจะได้ไปผุดไปเกิดเป็นมนุษย์อีกนั้นหนักสุด แบบนี้ไม่ใช่บาปกำเนิด แต่เป็นบาปแบบสรรหาแส่ใส่ตัว
ทางพุทธนั้น บาปหนา นั้นก็ต้องกลายเป็นเปรตในขุมนรกทนทุกขเวทนาแสนกัปแสนกัลป์
ทางคริสเตียนคาทอลิกนั้น ชี้ชัดว่า บาปต่อการยึดมั่นในอัตตา ยึดถือ ความต้องการของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่สนใจหลักนิติธรรม ศีลธรรม จริยธรรม เป็นพื้น นั่นคือ อะไรก็ได้ ถ้าข้ามีอำนาจ ข้าก็จะละเมิดกฎเกณฑ์กติการ่วมกันของสังคมนั้นแบบไม่สนใจ
สิ่งเหล่านี้เป็นบาปมหันต์ เป็นบาปหนาสุดเยียวยาแบบหนักสุด และอดีตนายกรัฐมนตรีผู้สัมภเวสี เร่ร่อนเลาะชายรั้วบ้านเมื่อตอนสงกรานต์ ผู้มีอาการทางจิตแบบไบโพลาร์ กำลังเป็นอยู่อย่างไม่รู้ตัว แน่นอน
นักจิตวิเคราะห์ แค่ได้ยินคำว่า “ช่างแม่มัน” ที่อ้างมาจากบทเพลงคลาสสิก ก็สรุปเหตุปัจจัย และสามารถบรรยายพฤติกรรม และอาการได้เป็นฉาก ของคนมีอาการป่วยแบบจิตเภทได้แล้ว
เขามีบาปหนา กรรมหนัก มีบาปมหันต์ นั่นคือ บาปต่อการยึดมั่นถือมั่น มัวเมาและ เหลิงในอัตตาตัวตน ซึ่งมักเกิดขึ้นจากพื้นฐานของจิตใจคนที่คิดอุบาทว์และวิปริตในระดับหนึ่ง
นักจิตวิเคราะห์ ได้ทำการศึกษาอาการทางจิตของบรรดาเผด็จการจอมหฤโหดประเภทศพตอนจบไม่สวยในประวัติศาสตร์มาแล้ว อาทิ มุสโสลินี, อดอล์ฟ ฮิตเลอร์, อีดี้ อามิน, พล พต.ฯลฯ เหล่านี้คือตัวอย่าง
พวกนี้จะมีพฤติกรรมที่ เห็นชัดๆ ต่อการที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ คิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เอาอารมณฺ์และความต้องการของตนเองเป็นที่ตั้ง แบบจิตโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม (เหตุการณ์ กรณี กรือเซะ,ตากใบ,การฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด หลายพันศพ คือตัวอย่าง)
พอมีอัตตา ตัวตนเปี่ยมล้น พวกนี้ก็จะเหลิงในตัวตน จากอหังการ มมังการ แบบไม่ฟังใคร โดยเริ่มแรกจะมีพฤติกรรมแบบเริ่มโกหก อย่างที่เผด็จการฮิตเลอร์ เคยกล่าวคำคมไว้เช่นกัน คือ เมื่อยึดมั่นในอัตตาตัวตนก็เกิดอาการแบบ
“หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ”
ฮิตเลอร์ ก็ติดกับดักวาทะของตน ตรงนี้เช่นกัน
เมื่อทำให้ตนเองชินและเชื่องใจต่อการโกหกได้แล้ว ก็จะขยายพื้นที่ ต่อการพัฒนาการโกหกต่อไปอีก แบบที่อับราฮัม ลินคอล์น ว่า “ท่านอาจโกหกคนทุกคนได้บางเวลา ท่านอาจโกหกคนบางคนได้ทุกเวลา แต่ท่านไม่สามารถโกหกคนทุกคน ได้ทุกคนและทุกเวลา”
สำหรับราย หัวโจกนักกาน(กิน)เมืองบาปหนาผู้นี้ ต้องเพิ่มไปอีกว่า “โกหกจนเชื่อว่าตนเองเป็นอย่างนั้น ตามความคิดและคารมที่ตนเองโกหกตนเอง” ซึ่งอันตรายมาก
-โกหกตนเองว่า ตนเองรวยแล้วไม่โกง
-โกหกว่าอีกหกปี คนไทยทั้งประเทศจะหายจน
-โกหกตนเองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกผู้อื่นกลั่นแกล้งตลอด
-โกหกว่าตนเองจงรักภักดีต่อสถาบันหลักทั้งสาม
-โกหกตนเองว่า ตนเองคือรัฐบุรุษ ผู้จะมาเป็นพระโพธิสัตว์ เสด็จมาโปรดผู้ยากไร้
ข้อสุดท้ายนี้สำคัญ ทำอย่างไร เมื่อตนเองเชื่อว่าตนเองเป็น และมีบรรดาลิ่วล้อ และสาวกที่เรียกว่าสิบห้าล้านเสียงโห่แซ่ซร้องสรรเสริญ ก็คิดกำเริบเสิบสานเพื่อสนองอัตตา จึงริอ่านสถาปนาอำนาจรัฐไทยใหม่ โดยตนเองเป็นใหญ่ นี่คือ วิธีการเดียวกับจอมเผด็จการทั้งหลายในอดีตที่กล่าวมา ดำเนินการมาแล้วในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น


โดยรูปแบบ เขาดำเนินการทางการเมืองทุกรูปแบบ ไม่ได้มาในรูปของอีดี้ อามิน (ที่แสดงออกในภาพยนต์ The Last King of Scotland)
แต่ในกรณีนี้ เขาและบรรดาสาวกต่างคิดว่าเขาคือ คิง ”มูลเมือง” กลับชาติมาเกิดพวกเขาสถาปนาอำนาจรัฐให้ตนเองและพวกพ้อง โดยวิธีการแยบยล คือ การซื้อทุกคน ดึงมาเป็นพวก และโกหกสังคม
เขาดำเนินทุศโลบาย (ตรงข้ามกับกุศโลบาย) มาในรูปเผด็จการทางรัฐสภา โดยอาศัยเสียงข้างมาก แทนอาวุธและกองกำลังไล่ล่า แบบอีดี้ อามิน
มาดูบาปหนา The Ultimate sin หรือ seven deadly sins ที่ในทางคริสตศาสนาจะเริ่มจากข้อน้อยสุดไปหามาก จะเห็นว่า นาย นช.หนีคดีจอมโหด THUG SIN นั้นได้ขโมยบาปทั้งหมดไปสุมในตัวเกือบทุกข้อ อาจจะมีข้อหนึ่งเท่านั้นที่อาจจะแปลกแยกออกไป นั้นคือ ข้อที่ว่า “เกียจคร้าน” (ไม่ขี้เกียจหรอกครับ ต่อการเร่งรีบ กระเหี้ยนกระหือรือ บงการให้สมุนในสภา ออก กม.เอื้อให้ตนกลับบ้านกลับเมืองอย่างเท่ เร่งวันเร่งคืนทีเดียวเชียว) นั่นคือการเหลิองในอัตตา บาปอันเป็นบาปหนา ข้อเจ็ดข้อหนักท้ายสุด แต่ในที่นี้ยกมาแสดงก่อน
ในทางคริสต์ศาสนานั้น บาปเรียงจากน้อยไปหามากดังนี้
ราคะ (แสดงออกผ่าน หมวดหญิงในเครื่องแบบ ร็อคสตาร์,R&B สตาร์ และซุป,ตาร์กี่รายที่บินไปพบปะ)
ตะกละ (แสดงออกการสนองความต้องการของตนเองโดยไม่ยั้งคิด มุ่งร้ายเอาของคนอื่น ขโมยสัมปทานดาวเทียมไปขายให้ต่างชาติเป็นอาทิ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการบริโภคอาหารที่มูมมาม นั้นคือสิ่งพื้นๆ
โลภะ (รวยแล้วไม่โกง มีคดีที่ปิดยังไม่ลง นอกจากคดีที่ดินรัชดา ที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน คดีซุกหุ้น คดีหวย คดีปล่อยแบงก์กู้ในหม่องพม่า)
เกียจคร้าน (ข้อนี้ยกประโยชน์ให้จำเลย ไฮเปอร์ในทางฉ้อฉล ไม่เกียจคร้านเลย)
โทสะ (การเป็นคนมีนิสัย เอาชนะคะคานผู้อื่นอยู่ตลอด เจ้าคิดเจ้าแค้น เมื่อเสียเปรียบใคร หรือถูกทำให้เจ็บใจจะต้องเอาคืน มีจิตพยาบาท เมื่อตนเองได้ที ก็เหยียบย่ำผู้อื่นแบบไม่เห็นหัว อย่าง…ลากเข้าสู่ลัทธิปรองดอง อันตนเองได้ประโยชนน์แต่ฝ่ายเดียว)
ริษยา (กลุ่มอำนาจเก่าอย่างอำมาตย์ และบุคคลที่ได้รับการเคารพนบนอบแบบยอมไม่ได้)

อัลบัมที่สุดยอดตลอดกาล ของพ่อมดออสซี่ ออสบอร์น หรือป๋าออสซี่ ของเหล่าสาวกเมทัลอันเลื่องลือ ที่นช.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ร่วมสมัย และมีรสนิยมทางความบาปหนา และความรุนแรงนั้น นั้นน่าจะหัดฟัง มากกว่า(Let it be) ของเดอะ บีทเทิลส์
นั่นคือ อัลบัมที่แสดงถึงความขยันขันแข็ง ต่อการมีอำนาจอันชั่วร้าย อันดับแรก คือ อัลบัม”นายชาติชั่วผู้ไม่ยอมหยุดชั่ว(No rest for the wicked)
และ อัลบัมที่สอง เพลง”บาปหนากรรมหนัก” The Ultimate sin หรือจะให้สมบทบาทก็ต้องเพิ่มคำให้สมบูรณ์ไปว่า The Ultimate (THUG) sin สองอัลบัมนี้แหละครับ คือสุดยอดที่ นช.ชายควรนำไปศึกษาก่อนกลับบ้านในอนาคต
อัลบัมแรก ฟังแล้วจะเลือดฉีด เลือดลม เรี่ยวแรงดี ทำให้มีพลังฮึกเหิม สามารถยิ่งนักกับการต่อสู้กับอำมาตย์ และมีพลังมหาศาลครอบงำเหล่าสาวก มีศักยภาพต่อการด่า สาปแช่ง มีมนต์ดำ อันเปี่ยมพลานุภาพแห่งแรงอาฆาตมาดร้าย พอที่จะเสกให้ไม่พ่ายแพ้การเลือกตั้งที่ปทุมธานีได้ (ถ้าไม่มัวไปท่องเนื้อ “ช่างแม่มัน” จนขึ้นใจ และนำมาร้องโชว์แบบเกรียนแก่ ส.ว.ให้เสียหายเหม็นไปทั้งยูทูบ)
อัลบัมนี้ สำเนียงกีตาร์ แนวกัดปิ๊ก หรือเทคนิค pinch harmonics ของ แซก ไวลด์ นั้นกรีดดังจ๊าก ๆ เกือบทุกแทร็ก พอกับเปรตอสุรกายวัดสุทัศน์ฯ ร้องขอส่วนบุญ เหมาะสมมาก
ส่วนอัลบัมที่สองThe Ultimate (THUG) sin ของพ่อมดนักวิจารณ์ฝรั่งบอกว่า ดนตรีของ เจ็ก อี.ลี ขุนขวานอีกคนที่ป๋าออสซี่เลือกมาคู่กายนั้น ด้อยพลังลงไปโดยอัลบัมนี้ นักวิจารณ์ว่าค่อนข้างอ่อนด้อยไม่เปี่ยมพลังและดูอ่อนล้าชอบกล
แต่ก็ขอให้เน้นหนักที่พฤติกรรมการก่อบาปแทนดนตรีก็แล้วกัน น่าจะพอเหมาะพอดี กับความชั่วมหันต์ของ นช.หนีคดีคนนี้อยู่

……………..
เขาคือ ผู้ดำเนินรอยตีน (แบบย่ำรอยระดับ เผด็จการ อีดี้ อามิน ทางรัฐสภา) ผู้โหยหา บ้านเกิดสารขัณฑ์ และหลอกตัวเองว่าเป็น ราชา(มูลเมือง ในอดีต) หรืออามิน หลอกตนเอง ว่าตนคือ ราชาองค์สุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ในจุดประสงค์แบบครือกัน คือ เจ้าขุนมูลเมืองผู้สะหงี่มาก ต่อการกลับมาสถาปนารัฐไทยใหม่ ให้สำเร็จยามคืนเมือง
บาปหนาและมหันต์ อย่างเท่ อาจทำให้กลับบ้านแบบใส่สูท ผูกเคไท ก้าวลงมากราบแผ่นดินแบบสง่าได้
แต่บาปหนา กรรมหนัก ของ The Ultimate sin ที่ทางพุทธศาสนาระดับพระเทวฑัตผู้ทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด หรือการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ต่อการแก้ รัฐธรรมนูญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นสาธารณรัฐไทยใหม่อันตนเองขึ้นมาแบบใหญ่นั้น
ถึงขั้นกราบแผ่นดินคราวนี้ จะมีธรณีสูบแน่นอนครับ


อัลบัม (The Ultimate sin) ที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร ควรสะสมให้ครบทุกอัลบัม เพื่อความขลังในกระบวนการตะเกียกตะกายกลับบ้าน แบบเตรียมตัวเตรียมใจ ต่อเงินทองและอำนาจคืนมาแบบหนูถีบจักร ไม่มีวันพักไปได้(No rest for the wicked)
อัลบัมนี้ เป็นอัลบัมที่ ที่ 4 ของป๋าออสซี่ หลังจากระเห็จออกมาจากการเป็นนักร้องนำของ แบล็ก ซับบัธ
The Ultimate Sin วางแผงในปี 1986 เป็นอีกงาน ของป๋าออสซี่ในฐานะศิลปินเดี่ยว มีศิลปินมือดีมาร่วมแจม ดังนี้
Ozzy Osbourn ร้องนำ
Jake E. Lee กีตาร์
Phil Soussan เบส
Randy Castillo กลอง
หน้าปกอัลบัม เป็นภาพปกสกุลแฟนตาซี ออกมาในโทนสีแดงแบบได้ใจ แดงทั้งแผ่นดิน มีอสุรกายหนึ่งตน ครึ่งคนครึ่งสัตว์แบบเสียงส่วนมากในทำเนียบขณะนี้ ซึ่งในตอนนี้ โหดร้ายมาก หากทว่าอสุรกายเหล่านี้ ถูกควบคุมโดย นางผู้นำผู้ผ่านการตี๊ต่างอุปโลกน์ ซึ่งนางมีรูปร่างปานเทพธิดา สะโพกในกางเกงหนังสีดำ ทับเสื้อขาวยุควิคตอเรีย หล่อน ปากแดงปานปอบสาวเพิ่งมุดออหกมาจากเล้าไก่ แต่ภาพรวมดูแล้วกระหายในกามรสแบบน่าดูชม (ตามรูป)
นางร้อนแรงแบบบาปหนา แบบไปด้วยกันได้กับสภาพสังคมการเมืองยามนี้เหลือ
มาดูทั้ง 9 แทร็ก ในอัลบัม
1.The Ultimate Sin(ไอ้บาปหนา กรรมหนักมาก)
2.Secret Loser(ความลับของไอ้ขี้แพ้ ที่ต้องเร่ร่อนเป็นสัมภเวสี)
3.Never Know Why(ไม่รู้ความชั่วของตนเลย)
4.Thank God For The Bomb(ขอบคุณ สำหรับการบอมบ์แบบเผาไทย)
5.Never(ไม่เคยโกง ถูกกลั่นแกล้ง)
6.Lightning Strikes(โต้กลับสายฟ้าแลบ)
7.Killer Of Giants(ใครจะมาจับยักษ์อย่างข้าใส่ตะเกียง มหาจำลองผู้ปล่อยข้าออกจากตะเกียงฤา 55 โน…โน้ โน.ไม่มีทาง)
8.Fool Like You(โง่แบบตีไพ่รัมมีโง่ ประมาณพรรคแมลงสาบ ถูกหลอกให้ยุบสภา)
9.Shot In The Dark(ถึงเวลา ล้างบาง เมื่อข้ากลับมาใหญ่ นั่นคือแวว เลือดนองแผ่นดินอีกครั้ง)
ขอร้องให้ นช.ผู้บาปหนา ฟังให้ขึ้นใจ หากให้ปักใจเชื่อและโกหกตนเองให้ขึ้นใจและเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ เนื้อหาในบริบทการกระทำแบบทุ่มเทให้สังคมไทย และเนื้อหาทุกแทร็กในอัลบัม The ultimate sin นี้ คือคุณความดีที่สมควรกระทำตอบแทนคุณแผ่นดินก่อนกลับบ้านอย่างเท่

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE