จิมมี เพจ : มือกีตาร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล

Blowin’ in the songs
โดย : ประมวล ดาระดาษ
p_daradas@hotmail.com

ตำนานร็อกเรือเหาะ LED ZEPPELIN (ตอนที่ 4)

จิมมี เพจ (Jimmy Page) “หนึ่งในร้อยนักกีตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ของนิตยสารโรลลิ่งสโตน”

ว่ากันว่า วัยเด็กเป็นวัยที่สำคัญเหมือนผ้าขาวพร้อมที่จะซึมซับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย เรามาดูหัวหน้าวงเลด เซพพลิน มือกีตาร์ กันก่อน

จิมมี เพจ เขาเล่าชีวิตในวัยเด็ก ดังนี้
“ใครไม่รู้ให้สแปนิช กีตาร์กับผม ก็เล่นไม่ได้เดี๋ยวนั้นเลยหรอก หากแต่ก็พยายามฝึก นั่งซ้อมเล่นในห้องนั่งเล่นในบ้านนั่นแหละ สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เล่นแบบไม่สนใจ แต่พอผมได้ยินแผ่นเสียงของหนึ่งในสองแผ่น ของเอลวิส “เบบี้ เล็ทส์ เพลย์ เฮาส์” เข้าแค่นั้นแหละ จึงมีความรู้สึกว่าต้องเล่นมันแล้ว ต้องการที่จะเรียนรู้ทั้งหมดด้วย เพื่อนที่โรงเรียนสอนวิธีจับคอร์ดให้สองสามคอร์ด ก็เริ่มที่ตรงนั้น

“จากนั้น ผมก็มาเรียนรู้ด้วยการศึกษาคอร์ด ที่เป็นการเข้าสู่ดนตรี ร็อกแอนด์โรล แต่มันก็คือ เพลงของเอลวิส “เบบี้ เล็ทส์ เพลย์ เฮาส์” อีกครั้ง ฟังๆๆ มัน และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของมัน คือต้องเล่นให้ได้ ผมรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างมันก้าวไป เริ่มมาจับมาฟังอะคูสติก กีตาร์, สแล็ป เบส และกีตาร์ไฟฟ้า เครื่องดนตรีทั้งสามชิ้นนี้ คือการเริ่มต้นของผมจริงๆ”
นี่ก็คือลักษณะการฟังเพลง ตามช่วงตามวัย เหมือนฟองน้ำซับของเหลวที่อยู่ใกล้ เขาเล่าต่อว่าต้องมีฮีโร่บันดาลใจให้เหมือนกัน
“แต่ผู้ที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจในกีตาร์ในรูปแบบอะคูสติกก็คือ เบิร์ต แจนสช์ เขามาเป็นคนสานฝันให้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมก็ไม่ศรัทธาเท่าไรเมื่อแรกพบ แต่ก็กลับมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่จนได้เมื่อผมได้ฟังอัลบั้มแรกของเขา ซึ่งส่งผลต่อผมมาก

“เมื่ออยู่โรงเรียน กีตาร์ผมถูกริบทุกวัน และครูจะส่งคืนให้ผมเสมอตอนสี่โมงเย็น ผมก็คิดอยู่เสมอแหละว่าเป็นการดีนะที่เขาไม่สอนเล่นกีตาร์ในโรงเรียน เรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า และนี่คือการศึกษาของผมส่วนหนึ่ง

“พอใกล้จะถึงชีวิตการงานที่ถือว่าเป็นสามัญของชีวิตนักเรียนตอนจบไฮสคูล ที่จะต้องจากอ้อมอกพ่อแม่ และต้องยืนบนลำแข้งของตน ในที่สุดแล้ว เขาก็เรียกผมไปสัมภาษณ์ให้เป็นที่ปรึกษาห้องแล็ปและเรียนต่อไปด้วย แต่ผมเลือกที่จะเล่นกับวงครูเสดเดอร์ แต่พอจะได้เล่นก็ต้องมาป่วยเป็นไข้ไม่สบายบ่อยๆ”
“วันแรก เป็นคุณคงต้องลงจากเวที เพราะถ้าอยู่ต่อไปก็ต้องยาวตลอดคืน แต่ผมถูกลากยาวไปต่อกับวง ด้วยความสนุก จบลงก็เป็นเรื่องโง่เง่าละนะ ผมถูกพวกจับใส่รถวิ่งไปรอบเมือง บนทางด่วน ก็หลับในรถแวน กับพวก แล้วไปหยุดริมมอเตอร์เวย์ เพราะร่างกายต้านไข้ไม่ไหวผมเลยถูกน็อก ผมล้ากับวงในชั่วระยะเวลาเพียงสองสามเดือน ชีวิตผมคงจะดีกว่าแน่ในตอนนั้น ถ้าทนอยู่ในวงไปอีกนิด

“ผมจึงมาจับงานการวาดภาพศิลปะในช่วงเวลาว่าง และคิดว่าจะไปเข้าวิทยาลัยศิลปะ เพราะเพื่อนฝูงหลายคนก็เข้าเรียนที่นั่นกันแล้ว แต่ผมก็คิดว่าจะอยู่อย่างนั้น ต่อมาก็ไป แต่ยังไม่หยุดคำนึงถึงเรื่องกีตาร์ และยังคงเล่นที่คลับมาควี เป็นนักดนตรีของวงซึ่งเล่นประจำที่นั่น

“ต่อมา ผมก็ได้เริ่มอีกครั้ง คือ ไปเป็นนักดนตรีแจมในวงซิริล เดวีส์ ออลสตาร์ส และอะเล็กซิสต์ คอนเนอร์ส์ บลูส์ ในยุคเริ่มแรก อย่างไรก็ดี ผมก็ยังอยากเล่นที่คลับแจ๊ส ที่มีวงเดอะ คิงส์ เล่นอยู่

“ยุคนั้น เจฟฟ์ เบค และเอริค แคล็ปตัน ต่างก็เป็นสตาร์ตัวหลักของที่นั่น และที่มาควีก็เป็นที่ที่ทุกคนมุ่งหวังว่าจะโด่งดังและได้อัดแผ่นที่นั่น มันเป็นอะไรที่ใครต่อใครก็อยากไปนำเสนอตัวงาน

“แท้แล้ว ผมอยากเป็นจิตรกรจริงๆ ลุ่มหลงมาก ผมจึงไม่บอกพรรคพวกที่วิทยาลัย มิฉะนั้นพวกเขาก็จะให้เล่นเวลาพัก แต่เกรดออกมานี่มันขัดแย้งกันระหว่างการเรียนศิลปะและดนตรี เพราะต่อการเรียนผมมีความรัก หากเรื่องดนตรีก็เย้ายวนควบคู่กันไป

“ไม่มีใครที่สนใจชัค เบอร์รี และโบ ดิดด์เลย์ ทุกคนต้องการเป็นหนึ่งในยี่สิบของกลุ่มคณะที่เล่นแนวแจ๊ส แล้วอีกขวบปีถัดมาทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้น

“วงโรลลิ่ง สโตนส์ ดังเปรี้ยงขึ้นมา แล้วก็มีพวกอาร์ แอนด์ บี จากลิเวอร์พูลตามมา ผมก็สนุกด้วยต่อการฟื้นกลับมาของวงแนวอาร์แอนด์บี ทำให้ศรัทธาในดนตรีป็อปอีกมาก

“คืนหนึ่ง มีคนมาถามผมว่าให้เล่นกีตาร์อัดแผ่น บอกตามจริงว่าผมจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร มันเป็นเพลงไม่มีอะไร ผมจำได้ แต่ก็กลับกลายว่ามันฮิต ทำให้ทุกคณะตามหาตัวผมใหญ่เลย ทำให้ไม่ว่างงานไปถึงสองสามสัปดาห์

“ถ้าจะมีสามกลุ่มดนตรีที่ต้องการสำเนียงกีตาร์ที่จะหาเรียกใช้บริการได้ทุกเวลาในห้องอัด บิ๊ก จิม (ซัลลิแวน) เป็นกลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ อือม.. ก็จำไม่ค่อยได้ นอกจากบิ๊กจิมแล้ว พวกเขาก็ต้องเข้าตาจน เพราะหาใครไม่ได้ แต่พอผมเข้าไปเล่นให้ ทำงานได้ดีและเร็ว ทำให้บิ๊กจิมมีสีหน้าเหมือนต้องแบกโลกไว้ต่อไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนอย่างผมเลยทีเดียว

“ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนพวกเขาคิดว่าไม่มีคนหนุ่มไหนทำได้ เท่ากับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนอายุ 26 ปีคนนี้ แถมมีความกระตือรือร้นที่จะทำมากกว่าใครๆ พวกเขาก็ตามหาผมไปอัดแผ่นบันทึกเสียง ซึ่งผมก็เลือกเฟ้นต่อการตอบรับและคิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด เพราะว่าผมยังต้องการเป็นจิตรกร ทั้งยังต้องการเวลาพักผ่อน เรื่องดนตรีนี้ทำเมื่อไหร่ก็ได้

“ผมก็เลยไม่ได้ทำงานบันทึกแผ่นเสียงให้คณะคิงส์มากมายอย่างที่สมควรจะเป็น ผมจำได้นะ ว่าได้เล่นลูกริฟฟ์กีตาร์ในอัลบั้มของพวกเขา แต่ตรงไหนบ้างจำไม่ได้จริงๆ รู้แต่ว่าเรย์ไม่ได้แก้งานของผมเท่านั้น วงคิงส์ไม่ต้องการให้ผมอยู่ใกล้ตอนอัดแผ่นจริง เขาจะบอกว่ามันเป็นความคิดของเชล ทัลมี่ เมื่อมีผู้มาสัมภาษณ์เรื่องราวของการทำงานในสตูดิโอ นักเขียนบางคนก็ต้องการล้วงลึกถึงกลุ่มผู้ทำงาน สังเกตได้เลยว่าผมไม่เคยพูดอะไรต่อการแถลงข่าว แต่มันก็รั่วจนได้ พวกเขาและผมต่างเสียความรู้สึก

“ผมยังเข้าร่วมกลุ่มนักสีไวโอลินด้วย พวกเขาไม่ค่อยรู้จักนักดนตรีกลุ่มอื่น และไม่รู้ว่าผมคือนักกีตาร์หนุ่มหน้าใหม่ ก็ถูกเย้ยหยัน มันก็น่าปวดหัวอยู่

“งานตอนนั้นจึงกระด้าง ไม่มีชีวิตชีวา เหมือนเสียงมันออกมาจากคอมพิวเตอร์ เมื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มศิลปินอื่นไม่ได้ ผมเลยกลายเป็นเครื่องจักร ต่อการไปทำงานร่วมกับผู้อื่นที่ไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่ได้แหกคอกออกไปจากแนวทางของดนตรีมากนัก แม้จะขาดอารมณ์ไปบ้าง

“ปัญหาอื่นๆ ก็คือการที่มือกีตาร์ไม่ได้รับความนิยมจากยุคสมัย เพราะผู้ฟังรู้สึกดื่มด่ำกับเสียงใหม่ๆ อย่างบรรดาเสียงแซกโซโฟน และเสียงอะไรต่อมิอะไรอื่นๆ ที่วิศวกรอัดทับไป ประมาณนั้น ผมก็เลยจัดการทำเสียงกระหึ่มให้กีตาร์ของผม คนเป่าแซกโซโฟนและมือไวโอลินจึงมองผมเป็นไอ้ตัวประหลาด ต่อไอเดียโต้กลับของผม

“ผมเล่นกีตาร์ริทึ่มมากมาย มันทำให้ฝีมือผมไม่ลื่นไหล เพราะไม่มีเวลาฝึก นักดนตรีส่วนมากคิดว่าสิ่งนี้ผมคิดถูกแล้ว คือการที่ผมไปอยู่กับวงเดอะ ยาร์ดเบิร์ดส์”

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE