" เต้า" ไม่มีวันตาย : ตั๊ก รีเทิร์น…


นางเอกหนังไทยที่ร้อนที่สุด และยังคงร้อนฉ่า กลับมาแล้ว
เธอกลับมาพร้อมกับผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด
“แม่นาค 3D” ค่ายบางกอกอินเตอร์ กรุ๊ปฟิล์ม
ซึ่งกำลังหลอนทะลุมิติ ทุกโรงภาพยนตร์
แม้จะเงียบหายไปจากโลกมายาพักใหญ่ๆ
จนถูกลมปากสื่อบันเทิงเมาท์กันให้แซด
เรื่องแขวนเต้า /อกเหี่ยวงานแห้ง/เสี่ยเลี้ยง และ ฯลฯ
เธอแขวนเต้า / เสี่ยคนไหนเลี้ยงเธอ
Taste มีทุกคำตอบที่คุณอยากรู้
แต่…ขอกันนิดหนึ่ง กรุณาอย่าใช้สายตาคู่เดิม
มองอดีตตุ๊กตาเงินดาวรุ่งฝ่ายหญิง จากหนังร้อยล้านเรื่อง บางระจัน ปี 2543 เหมือนที่เคยมอง
เพราะเรามีของดีที่ใหญ่กว่า “นม”
“ตั๊ก บงกช คงมาลัย”
มาให้คุณสัมผัส

บ่ายโมงตรง ร้าน Est.33 CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา คือสถานที่ที่เรานัดพบกับนางเอกหนังไทยที่ร้อนที่สุดเท่าที่วงการบันเทิงไทยเคยมี ถึงจะร้างจอเงินไปนาน แต่ทันทีที่เธอปรากฏตัวพร้อมแม่ ทุกคู่สายตาก็โฟกัสมาที่เธอ พร้อมอุณหภูมิที่ทวีความร้อน
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน “นางเอกร้อยล้าน” ยังคงเซ็กซี่เหมือนเดิม หรืออาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป สัมผัสแรกจากคำทักทาย ทำให้เรารู้ว่า “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ที่นั่งอยู่ข้างหน้าเรา ต่างจาก “ตั๊ก บงกช คงมาลัย”ที่เรา หรือคุณ เคยรู้จัก…

“ห่างหายจากวงการมายานานเกินไปหรือเปล่า”
เราตัดพ้อเธอด้วยความน้อยใจ
“ตั๊ก บงกช” ยิ้มหวานแทนคำขอโทษเรา และแฟนคลับของเธอ พร้อมกับเผยความรู้สึกว่า “ไม่นานเกินไปหรอกค่ะ นานพอดี (ยิ้ม) ที่หายไปเพราะแม่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามา ตั๊กเลยตัดสินใจหยุดงานดูแลแม่ก่อน ทั้งนี้เพราะต้องตัดสินใจว่า จะทำการรักษาแม่แบบไหนอย่างไรค่ะ
ตอนแรกๆก็กังวลใจมาก ที่ต้องตัดสินใจในเรื่องการรักษา เพราะว่าเราเองก็ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับโรคนี้มาก่อนเลย แต่คุณหมอก็คอยให้คำแนะนำตลอดว่า มีอะไรก็ถามได้เลย ผมจะไม่ใช้ศัพท์แพทย์ ผมจะใช้คำพูดธรรมดาให้คุณเข้าใจ
อย่างตั๊กตัดสินใจให้คุณแม่ทานยา เพื่อรักษา เพราะไม่อยากให้แม่ผ่าตัด คุณหมอก็จะอธิบายว่า ยาตัวนี้อาจมีผลทำให้หายใจไม่ออกกะทันหันนะ และมีผลข้างเคียงเยอะ ตั๊กก็เลยตัดสินใจให้คุณแม่ผ่าตัดกระทั่งอาการแม่ดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตของตั๊กค่ะ (หันไปยิ้มกับแม่)
ช่วงที่หายจากวงการไปประมาณ 3 ปี ก็มีค่ายหนังมาติดต่อให้แสดงบ้าง แต่ตั๊กก็จะบอกไปว่าไม่ว่างๆ เพราะแม่ตั๊กไม่สบาย ปัจจุบันนี้พอคุณแม่ดีขึ้น ตั๊กก็เลยมารับแสดงหนังเรื่อง แม่นาค 3D ซึ่งระหว่างถ่ายทำ ก็ดูแลแม่ไปด้วยทำงานไปด้วยค่ะ เหนื่อยค่ะแต่ก็มีความสุขดี”

ทราบว่าตั๊กเปิดบริษัทสร้างหนังด้วย
ค่ะ หลังรับแสดงหนังเรื่อง “แม่นาค 3D”ตั๊กก็ได้เจอกับ พี่อ้วน รีเทิร์น (อนันต์ เสมาทอง) ก็คุยกับพี่เขาว่าตั๊กมีโปรเจกต์อย่างนี้ พี่อ้วนว่าไง ซึ่งพี่อ้วนก็ชอบเหมือนตั๊ก ก็เลยหุ้นกันเปิดบริษัททำหนังชื่อ “แม่มามอง จำกัด” สร้างหนังเรื่องแรกชื่อ “นางฟ้า” ซึ่งตั๊กเขียนบท และกำกับร่วมกับ พี่วิโรจน์ ผู้ช่วยท่านมุ้ย หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสมหวัง และความผิดหวัง เล่าผ่านผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งใจอยากจะมีลูกแต่ดันท้อง ขณะที่ผู้หญิงอยากมีลูกแต่ไม่มี เป็นเรื่องของความปรารถนาของผู้หญิงที่เป็นเพศเดียวกันค่ะ
บทบาทนักแสดงต่างจากผู้กำกับมากไหม
ตั๊กว่าไม่ต่างกันนะ ความได้เปรียบเสียเปรียบมันเท่ากัน ได้เปรียบตรงที่เรามีโอกาสได้ทำ เสียเปรียบ ก็คือเราทำไปแล้วจะเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า เพราะไม่มีอะไรแน่นอน มันต้องเสี่ยงหน่อยกับการทำหนัง แต่ต้องบอกก่อนนะว่า หนังตั๊กทุนไม่เยอะหรอก ถึงขาดทุนก็คงไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่จะใช้ไอเดียค่ะ (ยิ้ม)
ที่หันมาทำหนังเกี่ยวกับข่าวลือเรื่อง…แขวนเต้า หรือเปล่า
ไม่เกี่ยวกันเลยค่ะ ตั๊กไม่ได้คิดจะแขวนเต้าอะไร คือเราก็เป็นมนุษย์ที่เลือกที่จะมี พอมีผลงานแล้ว เราก็อยากจะเติบโตเท่านั้นเอง คำว่าแขวนเต้า สำหรับคนภายนอกมองว่ายังไงไม่รู้นะ แต่สำหรับตั๊ก มันก็เหมือนๆคนมีเงินก็เริ่มทำธุรกิจ พอมีธุรกิจก็อยากทำเพิ่ม พอธุรกิจอันนี้ดีขึ้น ก็อยากไปซื้อธุรกิจใหม่ แค่นั้นเอง ไม่ได้จะออกจากวงการอะไรหรอกค่ะ
แต่ตั๊กกับเต้าเหมือนจะอยู่คู่กันนะ
(หัวเราะ หึหึ) ค่ะ ยิ้ม ยอมรับ
มีน้อยใจบ้างไหม
แรกๆก็น้อยใจเหมือนกันนะ เพราะตั๊กเองมีผลงานเยอะเหมือนกัน ย้อนกลับไป 12 ปีที่แล้ว นับจากหนังเรื่องบางระจัน ตอนนั้นยังไม่มีนางเอกคนไหนกล้ามีหน้าอก แต่ตั๊กมี ก็ไม่ได้โชว์นะ กลับไปดูได้เลยในเรื่องตั๊กไม่ได้หน้าตาดีเลย ตัดผมทรงมหาดไทย เกรียนๆ ไม่สวยไม่เซ็กซี่
แต่สุดท้ายก็ได้ฉายาประมาณว่าเป็นนางเอกขายเต้ามากกว่าความสามารถ เคยคิดเหมือนกันมีนมนี่ มันไม่ดีตรงไหน มีเยอะมันผิดด้วยเหรอ ก็เราไม่ได้ทำไม่ได้เสริมนี่ มันเป็นธรรมชาติไง
คือที่พี่ปื๊ด (ธนิตย์ จิตนุกูล) เลือกตั๊กมาเล่นเรื่องบางระจัน เขาไม่ได้เลือกที่นมน่ะ เขาเลือกที่ตั๊กหน้าไทย หน้าโบราณ แค่นั้นเอง

เทกแรกรู้สึกอย่างไร
ยากมาก… ตอนนั้นตั๊กคิดในใจซ้ำไปซ้ำมาว่า ขอเป็นตัวประกอบได้ไหม -ไม่ต้องทำไรได้ไหม คิดแล้วก็เดินไปขอผู้กำกับว่า เอาบทหนูออกได้ไหมคะ หนูขอเป็นชาวบ้านธรรมดาก็พอ คือตอนนั้นถ่ายฟิล์ม ถ่ายแล้วมันจะย้อนไม่ได้ คือเสียแล้วเสียเลย เวลาเขาก็ไม่เยอะ แล้วเราก็ไม่ชอบด้วยเวลามีคนมากดดัน
ตั๊กขอซ้อมมากๆ หน่อย เขาก็ไม่ให้อีก เพราะเขาไม่มีเวลา มันก็สุดยอดเหมือนกันกว่าจะผ่านมาได้ พอมันผ่านตรงนั้นมาได้ก็รู้สึกว่าไม่ยากน่ะ เพียงแต่ว่าตอนนั้นตั๊กไม่เข้าใจเท่านั้น คือตั๊กไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นนักแสดง มันเป็นโอกาสที่ได้ทำ พอได้ทำเราก็เริ่มชอบ ก็เลยรักการแสดงในที่สุดทั้งๆที่นี่ไม่ใช่ความฝันของตั๊กเลย
แล้วความฝันในวัยเด็กของตั๊กคือ
จริงๆแล้วก่อนหน้าที่จะเป็นนักแสดง ตั๊กอยากเป็นครูต่างจังหวัดนะ คือคิดแค่ว่า เรียนจบเป็นครู กินเงินเดือน คิดแค่นั้นเอง ง่ายดีชีวิต เป็นราชการยังไง เขาก็เลี้ยงตั๊กเลี้ยงแม่ตั๊กอยู่แล้ว
ช่วงดังสุดๆเคยคิดจะโกอินเตอร์ไหม
เคยค่ะเคย แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้วนะ เพราะแม่ตั๊กไม่ไป ก่อนหน้านี้เคยคิดเรียนภาษาอย่างเป็นจริง เป็นจังสัก 6 เดือนก็คงพูดได้ กลายเป็นว่าตอนนี้เพื่อนที่วางแผนด้วยกันพูดภาษาอังฤษได้แล้ว เขาไปทำตามความฝันของตั๊กหมดแล้ว (หัวเราะ) แม่ตั๊กบอกว่าแม่ไม่ไป แม่จะอยู่เมืองไทย ถ้าแม่ไม่ไปตั๊กก็ทิ้งแม่ไปไม่ได้หรอก เพราะว่าเราอยู่กันแค่สองคน

ใครคือครูของ “ตั๊ก บงกช” ครับ
ครูคนแรกของตั๊กคือ พี่หนึ่ง สอนการแสดงอยู่ที่ฟิล์มบางกอก ตอนนั้นตั๊กเล่นบางระจัน คนที่สอง เป็นอาจารย์คำรณ คุณะดิลก เรื่องไอ้ฟัก คนที่สามคือ หม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ทั้ง 3 ท่านนี้สอนเยอะค่ะ ตั๊กจดไว้เป็นเล่มๆ เป็นต้นว่าทำยังไงให้เราเข้าถึงตัวแสดงให้มากที่สุด -คิดให้เหมือนตัวแสดงต้องคิดแบบไหน -วิธีการต่อยอดการคิดตัวแสดงในแต่ละสถานการณ์ มันคิดหลายชั้นค่ะ ต้องตีความต้องคิดวนไปวนมา ว่าตัวแสดง ณ ตอนนั้น รู้สึกอย่างไร
คิดจะพิมพ์รวมเล่มไหมครับเนี่ย
อืม…ไอเดียดีนะคะ…แต่ขอกลับไปแกะลายมือ และรวบรวมก่อนนะ (หัวเราะ)
กว่าจะเป็น “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” วันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
พยายามค่ะ พยายาม อดทนในการท่องบท ต้องซ้อมบทเท่าที่จะมากได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตั๊กเจอบทที่ไม่ค่อยได้เจอด้วย อย่างตั๊กเล่นบางระจันจบ ก็มาเล่นเป็นแม่ ตั้งแต่ตั๊กอายุ 16 ในขุนช้างขุนแผน จากนั้นก็มาเรื่องไอ้ฟัก เรื่องนี้ก็เล่นเป็นผู้หญิงไม่สมประกอบ ซึ่งทุกบทต้องทำความเข้าใจบทตลอด ตั๊กทำการบ้านหนักมาก
เชื่อไหมพี่ ทุกวันนี้ตั๊กไม่เคยรู้สึกเลยว่า ตัวเองเก่ง บางเวลาที่สติเราไม่สมประกอบในการทำงาน มีเรื่องเยอะ ยังต้องตัดออกไม่ได้ ที่เรียนๆจดๆมาเป็นเล่มๆ มันก็เบลอเหมือนกัน คือเอามาใช้ไม่ได้ ก็ต้องมาตั้งสติ และค่อยๆทบทวนกันใหม่ เอาสติมาอยู่กับงานที่อยู่ตรงหน้า
อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ตั๊กเกิดจากบทพีเรียดด้วยมั้ง มันเลยยาก แค่ตัดผมทรงนั้นมันก็ยากสำหรับตั๊กแล้ว ย้อนกลับไปน่ะ เชื่อไหมตัดทรงนั้น ไม่มีใครสาดน้ำสงกรานต์ตั๊กเลย ไม่มีจริงๆ ไม่เปียกเลย ทุกคนคิดว่าตั๊กบ้าหมดเลย (หัวเราะ)
เพราะว่าข้างหลังมันเกรียนเหมือนทรงนักเรียนชาย ข้างหน้ามีอยู่สองอันแบบแหวกๆ แล้วตอนนั้นบางระจันยังไม่ดัง ทุกคนก็จะคิดว่าตั๊กบ้า เดินไปเล่นน้ำก็โพกหัวไป พอที่โพกหัวหลุดก็ไม่มีใครสาดน้ำตั๊กเลย มันก็เลยต้องมีความพยายามด้วย ที่ตั๊กตัดเพราะแม่บอกว่า ยังไงผมก็มีวันยาว โอกาสไม่ได้มาง่ายๆ
“ตั๊ก บงกช” เคยคิดจะทำศัลยกรรมอะไรอีกหรือเปล่า
เคยคิดค่ะว่าอยากทำศัลยกรรมตา และหน้าอกให้เล็กลง (!!!)แต่ตอนนี้ไม่คิดจะทำแล้วนะ เพราะทุกวันนี้ตั๊กปรับตัวกับวงการได้แล้ว แค่รู้จักแต่งตัว รู้จักบำรุง รู้จักดูแลก็น่าจะพอ ที่สำคัญผู้กำกับหลายคนบอกเอาไว้ว่าอย่าเพิ่งทำเลย เพราะว่าเราเกิดมาจากพีเรียด ถ้าวันหนึ่งกลับไปเล่นพีเรียด แต่หน้าเกาหลี มันก็ไม่ใช่

ความสุขที่ได้จากการเป็นนักแสดงกว่า 12 ปีคือ
ความสุขที่ได้จากการแสดงมากมายค่ะ ตั๊กได้เงินจากการแสดง -มีโอกาสได้ทำงานตั้งแต่ยังเด็กๆ ได้เงิน ได้บ้านมาให้แม่ อายุ 18 ปีมีรถ อยากได้ไรก็ได้ สบาย มีความสุขดีค่ะ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หลงเหมือนกัน เจอแต่สิ่งสวยงาม เจอแต่อะไรที่มันดีๆ อะไม่ดีก็ไม่ค่อยเห็น
อย่างตอนที่เราทำงานได้ บริษัทก็ดูแลเรา เอาใจเรา ประเคนทุกอย่าง (ลากเสียง)อยากได้ไรก็ให้ ไม่ลำบากอะไรเลย พอสบายมาก มันก็เริ่มจะอยู่นิ่งๆไม่เป็น ชอบหาเรื่อง ชอบลำบากบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ยังโชคดี ที่ตั๊กได้กลับมาทบทวนสิ่งนี้ไม่ดี สิ่งนั้นไม่ดีทัน บางคนไม่มีโอกาสรู้เลยด้วยซ้ำไป
คนที่มีส่วนสำคัญทำให้ตั๊กแยกแยะได้ว่าอันนี้ไม่ดี อันนี้ดี คือ แม่ เพราะแม่ผ่านโลกมาก่อนเรา เวลาที่ตั๊กประสบความสำเร็จแม่จะไม่ดีใจเท่าไหร่ เพราะแม่รู้ว่าของอย่างนี้อยู่กับเราได้ไม่นาน มันจะเป็นพักๆ แต่เราไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน เราเพิ่งเกิด เราก็จะเริ่ด ดีใจมาก แต่พอไม่เป็นอย่างที่หวังเราก็จะเสียใจ ทุกข์ใจ พออายุมากขึ้น ตั๊กก็จะเริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่แม่พูดมันถูกน่ะ มันเป็นไปตามกลไกอย่างที่แม่พูด อะแม่เก่ง ทุกวันนี้พอแม่พูดอะไรมาเราก็เชื่อแม่หมดเลย
หนุ่มๆทั้งประเทศอยากรู้ว่าวันนี้ ตั๊ก โสดจริงหรือ
โสดค่ะ …โสด ไม่มีแฟน ทำไมนะหรือ โสดสนิทจริงๆ เหมือนกับว่าพอเจอปุ๊บก็คบ พอไม่ใช่ก็ไม่เอา บางครั้งคนที่โสดอยู่อาจจะมองไม่เห็นใครเลยก็ได้ แต่คนที่อยู่ไกลๆเรา มองเราอยู่ห่างๆก็จะเห็น เฮ้ย นั่นไงไม่เห็นเหรอ
เพราะว่าบางทีเราก็ไม่ได้เห็นใครง่ายๆ เหมือนกันนะ บางคนเขาชอบเรา แต่เขาไม่คิดจะทำอะไรเลย คือแล้วเราจะรู้ไหมเนี่ย ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเราให้อยู่อย่างนี้แหละดีแล้ว เหงาไหม ก็มีเหงาบ้าง แต่ก็คิดว่าวันหนึ่งก็ต้องมีแฟน
งั้นช่วยตะโกนดังๆยืนยันหน่อยซิ
ตั๊กโสดค้า ตั๊กไม่มีแฟน !!!ค้า
เหงาแล้วไปไหน
เข้าวัดค่ะ ไปอยู่กับแม่ชีไปนั่งสมาธิกับท่าน วันหนึ่งไปอยู่สัก 2 ชั่วโมงก็จะเกิดปัญญา ได้มุมมองใหม่ๆของโลก ตรงนั้นเจริญกว่าเราอีกน่ะ ถึงแม้วงการที่เราอยู่จะล้ำมีทุกอย่าง แต่ความคิดตรงนั้นเจริญกว่าวงการที่เราอยู่มากมาย คือความคิดเขาเจริญแล้ว

คิดว่าตัวเองเจ้าชู้ไหม
ก่อนนี้อาจจะเจ้าชู้มั้ง หมายถึงว่าคบคนนี้เขาก็คิดว่าเราเป็นแฟนเขา แต่เราไม่ได้คิดว่าเขาเป็นแฟน แล้วก็ไปคบกับอีกคนพอไม่ใช่เราก็จะห่างๆแล้วไปมีคนใหม่ คนนี้เขาก็จะอ้าว! คบอยู่กับเราไม่ใช่หรอ คือเราไม่ชัดเจน ตอนนั้นมันเด็กๆ แต่พอโตปุ๊บ ไม่กล้าและ เดี๋ยวกรรมตามสนอง เริ่มกลัวกรรม ถ้าไม่ชอบใครก็จะไม่ยุ่ง (ยิ้ม)
คือตอนโน้น ก็มีคนมาจีบเยอะ ก็คุยด้วยแต่ไม่ได้คิดอะไร คือเขาคิดมากกันไปเอง !! บางคนที่มาจีบ เขาไม่เสียสละ ต้องการให้เราคบเขาคนเดียว แต่เขาก็ไม่ได้คบเราคนเดียว มันไม่แฟร์ เพราะฉะนั้นก็อย่าคบกันเลย จบ
กำลังจะบอกว่า “ตั๊ก บงกช” ไม่เจ้าชู้?
ไม่ค่ะ… แต่เลือกมาก ที่จะเจอที่จะคบ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเข้าใจอะไรมากขึ้นจนไม่ขวนขวายอะไร ตั๊กเชื่อเรื่องเนื้อคู่นะ ก็เลยไม่ค่อยเร่งอะไรมาก เพราะสักวันหนึ่งก็ต้องมีเนื้อคู่เรา โดยที่เราไม่ต้องไปเดินหา แต่นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ (หัวเราะ)
ยังไงหรือ
ตั๊กมีลางสังหรณ์ว่า เนื้อคู่ตั๊กจะมาตอนอายุตั๊ก 30 ปี ถึงตอนนั้นตั๊กจะเชื่อแม่ในเรื่องเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต เพราะแม่ก็คงอยากจะให้ตั๊กมีความสุขแหละ ตั๊กก็เลยอยากจะให้แม่มองดูให้ ตัดสินใจให้ ซึ่งแม่ก็บอกกับตั๊กว่า ไม่อยากให้ตั๊กอยู่เป็นโสด แค่อยากจะเลือกคนที่ดีที่สุดให้ลูก
เคยจีบผู้ชายก่อนไหม
เคยค่ะ ก็คุยกับเขาธรรมดา ถ้าใช่ก็คลิกกันเลยค่ะ คือคุยกับเขาแล้วเขาก็จะคุยกับเรา โชคดีตรงที่พอเราชอบคนนั้นเขาก็จะชอบเราเหมือนกัน เคยเจอเหมือนกันที่คุยกันแล้วไม่รู้เรื่อง คนละเรื่องกันเลย เราก็จะถามเขาว่ามีความสุขไหม พอเขาตอบว่ามีปัญหาตรงนี้ๆ เราก็จะบอกว่า เห็นไหมคิดเหมือนกันเลย ถ้าเราคบกันไปเราต้องทะเลาะกันแน่เลย เราเป็นเพื่อนกันหรือว่ายังไงดี เราก็จะถามเขา
เขาก็จะบอกว่าแล้วแต่ตั๊กดิ ถ้างั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยๆแล้วกัน แต่เราก็ไม่ได้รีบตัดสินใจอะไร เธอก็มีสิทธิ์คบคนอื่นไป เราก็มีสิทธิ์คบคนอื่นเหมือนกัน พอเขาเจอคนใหม่เขาก็ไป ถึงไม่ได้เป็นแฟนก็เป็นเพื่อนกันได้ นั่นในอดีตนะคะ
เศษซากความรักเก่าๆสอนอะไรตั๊กบ้าง
ความรักที่ไม่เป็นอย่างที่หวังสอนเรื่องความใจร้อน เพราะว่าตั๊กเป็นคนใจร้อน บางครั้งผู้ชายก็ไม่ชอบผู้หญิงที่รอไม่ได้ แต่ก่อนคิดว่าตั๊กมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิต มีสิทธิ์ที่จะเลือกทำในสิ่งที่ตั๊กอยากจะทำ ตั๊กมีแฟนน่ะไม่ใช่มีพ่อที่จะต้องคอยบอกตั๊ก ว่าต้องทำอะไร
ตั๊กเป็นคนไม่ค่อยเชื่อใครในเรื่องการใช้ชีวิต อย่างแฟนจะมาห้ามไม่ให้ตั๊กถ่ายเซ็กซี่หรือไม่ให้ตั๊กรับหนังเรื่องนี้เรื่องนั้น ตั๊กก็จะบอกเลยว่า ไปไกลๆ !! บอกตรงๆเพราะมันเป็นเรื่องของงานตั๊ก อีกอย่างตั๊กเป็นคนชอบทำงาน มาบอกให้ตั๊กอยู่เฉยๆน่ะ เดี๋ยวเราให้เงินเธอ ไปชอปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ไม่ต้องทำอะไร
เราก็จะบอกเขาว่า ถ้าวันหนึ่งเธอทิ้งฉัน ฉันก็กลายเป็นหมาอะดิ ทำไมฉันจะต้องเชื่อเธอ เพราะฉะนั้นฉันจะทำหนัง ยังไงฉันก็จะทำ อย่ามายุ่ง พอเราหมกหมุ่นกับงานมากๆ เขาก็จะไปเลย
โดยส่วนตัวตั๊กเชื่อนะคะว่า “อกหัก ถ้าไม่ตายก่อนก็จะโตขึ้น” อย่างเพื่อนตั๊กบางคนแต่งงานไปแล้ว หย่ากัน พอหย่ากัน ก็แต่งอีก สองคนแล้ว แต่ตั๊กยังไม่ก้าวหน้าเลย เขาก็จะรู้แนวแหละ รู้ทาง ผู้ชายอย่างนี้จะเป็นยังไง คือ รู้เขารู้เรา แต่เราบางทียังไม่รู้เขาเลยว่าเขาคิดอะไร ผู้ชายชอบทำตัวให้เข้าใจยาก จริงๆแล้วเขากลัวว่าผู้หญิงจะอ่านใจเขาออก ก็เลยต้องปกปิดตัวเอง… ตั๊กว่านะ
ตั๊กเชื่อความรักที่เป็นเพื่อน มากกว่าความรักที่ทำให้เมียเหมือนคนใช้ ต้องทำทุกอย่าง ต้องฟังผัว ซึ่งตั๊กรู้สึกว่า เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ตั๊กชอบวิธีที่แก่แล้วเลิกทำงานไม่เอาไรแล้ว ใช้ชีวิต แบ็กแพ็ก เดินทางทั่วโลก ไม่ชอบแบบเธอยู่บ้าน ฉันต้องทำงานต้องสร้างบริษัทใหญ่ๆคือ เธอจะรวยไปไหนอะ
ตั๊กไม่ชอบแบบทั้งชีวิตมีแต่เงิน ทำทุกอย่างเพื่อเงิน คือเราแต่งงานไม่ได้เพื่อไปซัปพอร์ตสามีให้มีแรงหาเงิน เราแต่งเพื่อ ดูแลกันและกัน คือแต่งไปแล้วต้องมีความสุขด้วยค่ะ ไม่ใช่ขวนขวายเงิน-เงิน และเงินอย่างเดียว จนหาความสุขไม่เจอ

ยังให้โอกาสหนุ่มไทยแก้ตัวอีกหรือเปล่า
(ยิ้ม) แม่ตั๊กชอบต่างชาติค่ะ ตั๊กว่าคนต่างชาติเขารับตั๊กได้ คนไทยบางทียังพูดเลยว่า เฮ้ยตั๊กลืมตามากๆพี่ก็กลัวเหมือนกัน เพราะตาตั๊กโตมาก เหตุผลแค่นี้เองเหรอ มาหาว่าตั๊กหน้าดุเพราะตาตั๊กโต แต่ฝรั่งบางคนจะบอกว่าตาสวยดี ตั๊กก็ต้องชอบคนที่เขาชมตั๊ก จริงไหมคะ
แต่เรื่องของความรักหลักๆที่แม่บอกตั๊ก คืออย่าไปคาดหวังกับผู้ชายมาก เวลาผิดหวังแล้วมันไมได้อะไรเลย ถ้าเราไม่คาดหวังแล้วเราได้เราจะมีความสุข วันนี้ตั๊กเข้าใจในสิ่งที่แม่พูด เพราะบางครั้งเราคบกันก็ไปคาดหวัง ว่าเขาจะต้องอย่างนั้น อย่างนี้ คาดหวังไปโดยธรรมชาติ คือมันก็ต้องดูค่ะ ว่าคบกันแล้วมีเวลาดูแลเราไหม แต่แม่ตั๊กก็บอกว่าผู้ชายดูไม่ยากหรอก ถ้าเขาจริงจังกับเราเขาก็จะไม่ไปไหน
อ่านผู้ชายออกหมดเลยหรือ
(หัวเราะ) ตั๊กไม่คิดจะอ่านใครหรอกค่ะ และก็ยังอ่านไม่เก่งด้วย จะไปอ่านเขาน่ะ อ่านเราเองก่อนดีไหม ตัวเองยังอ่านยากเลยไม่เข้าใจตัวเอง ตั๊กจะอ่านแต่คนที่น่ารัก เริ่มจะใช่เราก็อ่าน อ่านๆไปปุ๊บ มันไม่ใช่ก็จบ !! เสียเวลาอ่านเหมือนเดิมแหละ
อ๋อ..ตั๊กถือหลักอกหักเรื่องเล็ก อกเล็กเรื่องใหญ่ค่ะ เพราะอกหักไปแล้วคือมันจบ ถ้ามีแฟนใหม่แฟนอยากได้อกใหญ่จะทำไงอะ (หัวเราะฮา)
ถ้า Taste ย้อนเวลาให้ “ตั๊ก”ได้อยากบอกอะไรกับตั๊ก บงกช เมื่อ 12 ปีก่อน
อยากบอกว่า หลังจากที่ผมยาวแล้วเนี่ย เธอจะดัง และมีชื่อเสียงมากเลย แต่เธอต้องมีสติมากกว่านี้น่ะ ถ้าเธอมีสติมากกว่านี้ เธอจะเริ่ดมาก “บงกช คงมาลัย”
ภาพนิตยสาร mars
Special Thank
ร้าน Est.33 CDC เลียบทางด่วนรามอินทราเอื้อเฟื้อสถานที่สัมภาษณ์

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE