'ชีวิตผมไม่ตลกเลยนะ'!! เปิ้ล-นาคร


เห็นโปสเตอร์หนังใหม่ของ “พี่เปิ้ลกับพี่หม่ำ” รึยัง
ทั้งคู่ถูกจับคู่สวมบทฮีโร่กู้โลกกับคาแร็คเตอร์กวนๆ ในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” เล่นเป็นพี่น้องสุดซี้เกรียนเทพที่ชอบซิ่งมอไซค์ชอปเปอร์ แน่นอนเราจะได้เห็นการเปลี่ยนลุคใหม่ของนักแสดงจากเรื่องนี้ แต่คงไม่ใช่ภาพแปลกตานักสำหรับ เปิ้ล นาคร ที่ติดหนวด ติดเครา มาดแมนด้วยเสื้อลายสก็อต กางเกงยีนส์ ขี่มอไซค์คันใหญ่กว่าคน
แถมยังแปะป้าย (ที่มองไม่เห็น) “ไอ้ตัวห่วย” ไว้ที่หน้าผาก ในชีวิตจริงเขาเป็น ไอ้ตัวห่วย หรือ ฮีโร่ กันแน่ มาคุยกันแบบกวนๆ ตามสไตล์เราได้ที่นี่ที่เดียว

ไปทำอะไรในสูบคู่กู้โลก
เล่นเป็นอี๊ด เป็นเพื่อนรุ่นน้องของพี่จ๊อด เราเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ ชอปเปอร์ เป็นคนชอบวางแผนทุกเรื่อง เป็นตัววางแผนการต่างๆ แล้วก็พา พี่จ๊อดไปร่วมกับแผนการด้วยตลอด คาแร็คเตอร์ก็คล้ายตัวเราเองนี่แหละ แนวกล้าๆ แต่ใจมะหมา แต่ความยากมันอยู่ที่เราต้องขี่ชอปเปอร์ มันไม่ใช่ฮาเลย์ เดวิดสัน หรือ ดูคาติ แต่ว่านี่มันเป็นก้านยาว ที่ยาวเกือบ 2 เมตร เอ่อ ไม่ใช่ทุเรียนนะ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ยาว2 เมตร ขับคันนี้โคตรปวดแขน เสียงกระฮึ่มมาก เวลาที่เราขี่บนถนน มันก็เพลินดี เข้าใจเลยทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์

สูบคู่กู้โลกกับไอเดียมะนาวต่างดุ๊ด เฮ้ย! มนุษย์ต่างดาวมาได้ยังไง
แรงบันดาลใจอันใหญ่เลยมาจากคุณเป้ นฤบดี (กำกับ) ที่เค้าคิดและเชื่อมาอยู่ก่อนแล้ว มันมาจากความคิดที่ว่า เฮ้ย ถ้าวันนึงมันมีมนุษย์ต่างดาวบุกโลกขึ้นมาจริงๆ มันจะเป็นยังไง ก็เลยมานั่งคุยกันกับผม เออ เฮ้ย กูก็อยากให้มึงเล่นนั่นแหละเปิ้ล แล้วอะนะ กูเล่นมันก็ต้องเป็นผู้ชายห่วยๆ จะให้มันส์ก็ต้องมีไอ้ผู้ชายห่วยๆ อีกคนนึงที่มันห่วยพอกัน ก็นึกถึงพี่หม่ำเลย choice แรกเลย เราก็บอก เดี๋ยวกูคุยเอง สนิทกันกับคุณเป้ เพราะเราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ศิลปกรรม จุฬา จนมาทำงานด้วยกันที่สาระแน เป้นี่เค้าก็เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งสาระแนด้วย คนนี้แหละ สูบคู่กู้โลก พี่เป้เค้าก็จะเป็นคนตบมากกว่า เราก็คอยฟุ้งไปเรื่อย เติมนั่นสิ เติมนี่หน่อย เป้เค้าก็จะมีเส้นเรื่องของเค้าอยู่แล้ว

แล้วต่างดาวที่คุณจะทำเนี่ย หน้าตามันเป็นยังไง
เป็นเฉาก๊วย วุ้นๆ ดำๆ เด้งๆ ดึ๋งๆ

มันจะคุยกันไงอ่ะ
ไม่รู้ดิ เด้งๆ ดึ๋งๆ ไปงั้น (คิดจริงจัง)

ไปไงมาไง ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้
นั่งรถไฟฟ้ามา เฮ้ย! อ๋อ เริ่มต้นตรงที่ได้เข้าไปอยู่ในรายการยุทธการขยับเหงือก ครั้งแรกเลยเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้วมั๊ง ตอนนั้นเรียนอยู่ปีหนึ่งเอง กำลังจะขึ้นปีสอง ที่จุฬา แต่ก่อนเราเป็นประธานของคณะไง แล้วก็ทำกิจกรรมเยอะมาก ถึงเวลาก็ขึ้นเวทีของมหา'ลัยตลอด จนกระทั่ง เจเอสแอล มาเห็น เค้าก็มาถามว่า ใครวะ ทำไมมันกวนตีนจังวะ นึกออกมะ เวลามีงานบอลจุฬา-ธรรมศาสตร์ หรืออะไรก็ตาม ก็จะมีเรานั่นแหละ เป็นโต้โผ เจเอสแอล เค้ามาเห็น ก็ว่า ไอ้เนี่ย ตอนเนี้ย มันกวนตีนที่สุดแล้ว เค้าก็เลยจับเราไปอยู่ในยุทธการขยับเหงือก ตอนนั้นเราโนเนมมมาก เด็กเลย ทุกคนเป็นซุปเปอร์สตาร์หมด ดาราดังๆ ทั้งนั้นเลย แหม่ม-สุริวิภา อรุณ ภาวิไล พี่ตา-ปัญญา ซูโม่โค้ก ซูโม่กิ้ก แล้วเราเป็นใคร ไอ้เด็กปีสอง ไม่มีใครรู้จัก

แล้วถ้าเจเอสแอลไม่มาเห็น?
ป่านนี้ก็คง ขายของ ขายเฉาก๊วย อยู่ตรงสวนรถไฟนั่นแหละ (หัวเราะ)

ยังแข่งเจ็ทสกีอยู่ไหม
แข่งอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังแข่งอยู่นะ ทุกวันนี้ในเมืองไทย ก็ถือว่าเราอายุเยอะที่สุด ในรุ่นเดียวกันนะ คือบางคนเค้าก็เลิกแข่งแล้ว อายุเยอะ แข่งกันไม่ไหวแล้ว ในรุ่นเนี๊ย วัยนี้น่ะ แต่เราตั้งใจว่าจะแข่งจนถึงอายุ 60 ถึงตอนนั้นโดนใบพัดก็ไม่เป็นไรแล้ว หนังเหนียว (หัวเราะ)

เห็นชอบทำให้คนอื่นตลกบ่อยๆ คิดว่าชีวิตคุณตลกมั้ย
ชีวิตผมไม่ตลกเลยนะ เคยมีคนไปถามกับเพื่อน ว่าจริงๆ เปิ้ลตลกมั้ย มันก็บอกเลยว่า มันไม่ตลกหรอก แต่มันกวนตีน ตัวจริงเราเป็นคนนิ่งๆ เงียบ ชอบคิด นั่งคิด เวลาไม่มีคนอยู่ คิดเยอะๆ คิดเสร็จแล้วก็จด อัดเสียง เก็บข้อมูลอะไรไว้ เราคิดไว้เรียบร้อยแล้ว พอขึ้นเวที เราก็ปล่อยตัวให้มัน รีแล็กซ์ ปลิวไปตามคนดู เพราะคนดูเค้ารักเรา เค้าเล่นกับเรา มันจะมี รีแอ็คชั่นกับคนดูอยู่ตลอดเวลา เค้ารู้สึกอะไรมา เราก็รู้สึกตอบไป อย่างนั้นแหละ

แป๊ก แบบไม่มีใครขำเลย เคยมั้ย
ก็มี ไปเล่นโต๊ะจีนเงี๊ย

โต๊ะจีน?
เคย (หัวเราะ) เค้าอยู่ๆ ก็มาบอกว่า เปิ้ลขึ้นเวที แล้วทำอะไรให้มันตลกๆ หน่อย ขึ้นไปถึงโต๊ะจีน เค้าก็ซัดหมูหันกันดิ ซัดหูฉลามกันดิ ไม่มีใครดูเราหรอก มีเสียงตะเกียบชนกัน ก๊องแก๊งๆ เราก็เล่น หน้าเด๋อไป ไม่มีใครฮา ไม่มีใครดู ไม่มีใครหัวเรากันเลย เค้ากินกันอยู่

Fail มั้ย
ไม่ Fail หรอก เราก็คิดว่า ทำไมไม่กินเสร็จแล้วค่อนเราตูขึ้นมา แล้วใครมันจะไปดู (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องของจังหวะนะ บางมุขโคตรตลกเลย แต่ดันเล่นไม่ถูกจังหวะ มันก็ไม่ตลก…บางอย่างไม่ตลก แต่ไปอยู่ในที่ที่มันตลก มันก็จะตลก

อ้าว แล้วไปแกล้งคุณหม่ำจนโกรธขนาดนั้นแล้ว (สาระแนห้าวเป้ง) แล้วยังยอมมาเล่นอีกเหรอ
คุยก่อน (เสียงสูง) ก่อนที่แกจะขึ้นไปนั่งในแท็กซี่อีก คือบอกพี่เค้าว่า นี่นะ เราจะโปรโมทกระทรวงความปลอดภัย ให้รัดเข็มขัดนะ แค่นั้นพอ พี่แค่นั่งเฉยๆ จบ แล้วพี่ก็พูดให้ฮาๆ แค่นั้น พี่เค้าบอก แน่นะ เอ็งไม่มีอะไรแน่นะ แล้วก็มองซ้ายมองขวา ก็ไม่มีพี่ (เสียงสูง) แค่พี่มาก็ฮากันแล้ว หนังเจิมนิดเดียวก็พอ พี่เค้าก็นั่ง พอรักเบลล์สแค่นั้นแหละ รถก็พุ่งออกไปทะลุบ้านเลย ก็เป็นเรื่องเป็นราว โดนด่าเลย ทุกคนในวงการเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าพี่หม่ำแกกลัวเรื่องเดียว คือกลัวใครเอาเค้าไปทำอะไรหวาดเสียว เสี่ยงกับชีวิต พอลงมาจากรถเท่านั้นแหละ ด่าเป็นเดือนเลย

แต่ก็ยังรักกันอยู่
ก็ไปกราบขอโทษ เค้าก็หาย เพราะพี่หม่ำแกน่ารัก แกเป็นคนจิตใจดี แต่โห แต่ด่าเสียเลยนะ พี่หม่ำด่าเกือบชั่วโมงเลยวันนั้น ด่าเกือบชั่วโมงเลย ด่าหยาบมากอ่ะ ที่ตัดออกมาเหลือในหนัง นั่นออกมาเหลือสุภาพแล้วนั่นน่ะ เราแกล้งจริงนะ แต่เราแกล้งพี่หม่ำด้วยความรัก คือในทุกๆ ครั้ง อันดับแรกเนี่ย เราจะบอกกับน้องๆ บอกกับทีมงานทุกคนก่อนก่อนว่า เราต้องหาความดี ความน่ารักของเค้าให้เจอก่อน แล้วที่สำคัญคือเราจะต้องรู้สึก รักเค้าก่อน เราปลื้ม เราชอบเค้าจริงๆ ก่อน ถ้าแกล้งด้วยความเกลียดชัง แกล้งเพราะหมั่นไส้ การแกล้งครั้งนั้นน่ะจะน่ากลัว แต่เมื่อไหร่ที่เรารัก เราชอบเค้าจริงๆ เราเอ็นดูเค้าจริงๆ ก็แกล้งไปเถอะ ถึงแม้เค้าจะร้องไห้ จะอะไรก็ตาม การแกล้งนั้นจะถูกควบคุมด้วยความรู้สึกที่ดีของเราเอง มันต่างกันนะ แกล้งเพราะเกลียดกับแกล้งเพราะรัก ผมปลูกฝังน้องๆ ทุกคนอย่างนี้แหละ เราต้องทำรายการ Can did ที่ดีที่สุดในเมืองไทย

The Toilet 5 ทำไปทำไม
ลองไปเปิดดูสิ พ็อกเก็ตบุคที่มีอยู่ในเมืองไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะดารา จะอกหัก จะเรื่องอะไรต่อมิอะไร มันก็เหมือนๆ ซ้ำๆ กันหมด เรารู้สึกนะ ถ้าทำออกมาจะให้เหมือนกันทำไม ก็เลยคิด The Toilet ออกมา รูปภาพ ล้อเลียน เสียดสี การเมือง โฆษณา หนัง คนที่เราชื่นชอบ คนที่เรารัก แค่นี้แหละ ทำมา 4 เล่ม แล้วหยุดไป 2 ปี นี่ก็เล่ม 5 เพิ่งจะคลอด ก็ทำมาเราก็อยากให้คนอ่าน ที่รู้มา เล่มนี้ก็เป็นเบสท์เซลเลอร์ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แล้วที่ร้านซีเอ็ดก็เป็นหนังสือติดอันดับขายดี

คิดว่าทำไมถึงขายดี
คนสงสารมั้ง (หัวเราะ)

แล้วนอกจากที่ว่ามานี้มีอะไรอีก
เปิดแพนกวิ้น สตูดิโอ ของตัวเอง เป็นบริษัทเปิดใหม่ของผม แทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลย มีพนักงานอยู่ 3 คน รวมยามด้วยก็เป็น 4 มีเลขา มีบัญชี แค่เนี๊ย นอกนั้นเราก็จ้างฟรีแลนซ์หมด ลงทุนไม่เยอะหรอก ทำหนัง ทำหนังสือ ประมาณนี้ อีกไม่นานก็จะมีหนังของเราเองอีกนะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับฮีโร่เหมือนกันนี่แหละ แต่ของเราแตกต่าง ไม่เหมือนใคร แต่ขออุบไว้ก่อน ยังไม่บอก ตอนนี้ก็มีเรื่องท้าทายที่สุดของตัวเอง คือทำให้แพนกวิ้นเป็นบริษัทเล็กๆ ที่น่ารักที่สุดในโลก

ตกลงว่าชีวิตนี้อยากทำอะไรอีก
ก็ทำอย่างที่ทำนี่แหละ หนัง หนังสือ รายการทีวี และอะไรอีกมากมายที่คิดไว้

ความฝันนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
ตั้งแต่ตอนเลี้ยงปลากัด อยู่ที่แฟลต

ยังไง
ก็อยากให้มันมีลูก (น้ำเสียงจริงจัง) อยากเพาะเลี้ยงปลากัด ให้มันมีลูก ด้วยมือของตัวเอง ภูมิใจที่สุด

ก่อนจะออกทะเลไปไกลกว่านี้ เรามาคุยเรื่องหนังกันต่อดีกว่า
ก็ว่างั้นแหละ

อี๊ดในหนัง เหมือนตัวจริงของคุณมั้ย
ที่จริงมันก็เป็นเรื่องของไอ้ตัวห่วยๆ เอาในหนังนะ มันก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย เล่นพนันก็เสีย ไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออะไรเลยในหมู่บ้าน
แล้ววันนึงไปเจอมนุษย์ต่างดาว ไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง ใครจะเชื่อ ไอ้คนนี้กับพี่หม่ำนี่แหละเลยต้องเป็นคนต่อกรกับมนุษย์ต่างดาว เรื่องมันก็เลยวุ่นวาย แต่มันมีแก่น มีบางสิ่งที่ผู้กำกับเค้าซ่อนไว้ ซึ่งผมว่ามันคมคายมาก คือ โลกเราน่ะ ไอ้ที่มันเกิดขึ้นทุกวันนี้ มีโรค ภัยพิบัติต่างๆ เนี่ย มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ทำไมเราไม่ดูแลโลก แล้วทำไมต้องให้มนุษย์ดาวดวงอื่นเขามาบอกเรา

ลึกซึ้ง
มาก! แล้วสวย พลาดไม่ได้ ต้องดู ไม่ดูขอให้เป็นหมัน! (จริงจังทีเดียว)

แล้วนี่เป็นหนังฮีโร่ ที่อยากจะทำเรื่องต่อไปก็ฮีโร่ อย่างนี้ก็ต้องเชื่อในตัวซุปเปอร์ฮีโร่สิ
ผมไม่ได้เชื่อเรื่องซุปเปอร์ฮีโร่หรอก แต่มันมีมุมให้คิดว่า ซุปเปอร์ฮีโร่จริงๆ คือใครว่ะ ไอ้ตัวห่วยก็เป็นได้ ใครก็เป็นได้ ซุปเปอร์ฮีโร่น่ะ แต่ในสูบคู่มันเป็นฮีโร่นะไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ ซุปเปอร์ฮีโร่คือมนุษย์ที่มีพลังพิเศษแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป

แล้วเคยฝันอยากจะเป็นฮีโร่หรือซุปเปอร์ฮีโร่มั้ย
ไม่เคย อยากจะเป็นตัวเรานี่แหละ ช่วยคนอื่นได้ก็ช่วย เท่าที่เรามีแรง ทำให้คนอื่นมีความสุขที่สุด ชีวิตไม่ต้องสนุกนักหรอก ขอให้หายใจแล้วมีความสุข ก็พอ…

 
“สูบคู่กู้โลก” เตรียมจ่อคิวฉาย 8 พฤศจิกายนนี้



No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE