โม อมีนา ภาพหลุดชัวร์หรือมั่วนิ่ม?


'โม อมีนา' ภาพหลุดชัวร์หรือมั่วนิ่ม? 

‘โม-อมีนา พินิจ ยอมรับคือผู้หญิงในภาพบนเตียง’
เพียงไม่กี่วันหลังจากสื่อหลายสำนัก กระพือข่าวเรื่องภาพหลุด-ภาพลับอล่างฉ่างของดาราคนดังคนหนึ่ง ซึ่งทั้งนักข่าวและนักสืบในโลกออนไลน์ต่างควานหาตัวกันให้ควั่ก และคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าดาราคนนั้นคือใคร ชื่อของดาราสาวหลายชื่อถูกนำเสนอขึ้นมา ราวกับว่าพวกเธอกำลังเข้าประกวดประขันชิงรางวัลใหญ่รางวัลใดรางวัลหนึ่ง — รางวัลที่หมายถึงความ ‘ฉาว’ หาใช่เกียรติยศที่ควรภาคภูมิใจ
แต่แล้วอยู่ๆ สื่อสำนักหนึ่งก็เรียกเสียงฮือฮา โดนการยืนยันว่า ‘โม-อมีนา พินิจ ยอมรับคือผู้หญิงในภาพบนเตียง’
ทันทีที่รู้ข่าว เธอออกมาปฏิเสธทันควัน และยืนยันว่านั่นคือการสื่อสารผิดพลาดระหว่างเธอและนักข่าว พร้อมกันนั้นก็ปฏิเสธเป็นพัลวันว่า ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายอย่างไร เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงในภาพ และเธอก็ค่อนข้างตอบคำถามได้อย่างเด็ดขาดและชัดเจน

วันนี้ mars ชวน โม-อมีนา พินิจ มาถ่ายแบบขึ้นปก เพื่อพิสูจน์ความเซ็กซี่และน่าหลงใหลให้เห็นกันชัดๆ กระจ่างตา โดยไม่ต้องสนใจว่าคนในภาพหลุดคนนั้นจะเป็นใคร

คิดว่าส่วนไหนของตัวเองเซ็กซี่ที่สุด
ส่วนใหญ่คนจะบอกว่าตา เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะ สงสัยตาเราจะเจ้าชู้มั้งคะ (หัวเราะ)

แล้วจริงๆ เจ้าชู้หรือเปล่า
เราว่าคนทุกคนมันมีความเจ้าชู้ในตัวเองอยู่แล้ว มันคงไม่มีใครมาบอกว่า โอ๊ย ชีวิตนี้ฉันไม่เคยเจ้าชู้เลย เกิดมาไม่เคยเลย มันไม่มีนะคะ ทุกคนมีความเจ้าชู้ในตัวเองหมด อยู่ที่ว่าจะใช้อะไรตอนไหนแค่นั้นเอง และก็อยู่ที่ว่าเราจะควบคุมมันอย่างไรมากกว่า

นอกเหนือไปจากความเซ็กซี่ หรือความเจ้าชู้แล้ว ถ้าพูดถึง โม-อมีนา คิดว่าสิ่งแรกที่จะทำให้คนนึกถึงคืออะไร
ตอนนี้เหรอ คบทอมไง (หัวเราะ) ก็ตามข่าวอะค่ะ มันก็กลายเป็นภาพจำของเราไปแล้วว่าเราเป็นแบบนี้ แต่เราก็ยอมรับนะ ไม่ได้ปิดบังอะไร ก็เปิดเผย โมถือว่าไม่ว่าใครเข้ามาในชีวิต เขาก็คือเพื่อนที่ดีสำหรับเรา เทกแคร์ซึ่งกันและกันก็แค่นั้นเอง

แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำให้คนนึกถึงอีกเรื่องหนึ่ง ก็อาจเป็นเรื่องประเด็นภาพหลุด ซึ่งโมได้ออกมาปฏิเสธจนเคลียร์ไปแล้ว แต่เราอยากให้โมแสดงความคิดเห็นหน่อยว่า ทำไมสื่อ หรือคนเสพสื่อ ถึงสนใจกับข่าวภาพลับ ภาพหลุดของดาราคนดังเหลือเกิน
ส่วนหนึ่งโมเข้าใจสังคมของเราตอนนี้ดีมากพอที่จะไม่พูดอะไร ข่าวมา เดี๋ยวสักพักมันไป ทุกคนก็ลืม โมคิดแบบนี้มากกว่า โมใช้คำว่าเข้าใจสังคม มันเป็นไปไม่ได้ที่นักข่าวจะไม่สนใจ ก็เดากันไปต่างๆ นานาว่าเป็นคนนู้นคนนี้ เพราะฉะนั้นเดี๋ยวพอถึงจุดจุดหนึ่ง คนก็ลืม แค่รอเวลาให้มันผ่านไป

จริงๆ การถ่าย ‘ภาพลับ’ ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน โมคิดว่าการถ่ายภาพลับเก็บไว้ดูเล่น มันเหมาะสม หรือเป็นสิ่งที่สามารถทำได้หรือเปล่า
ไม่ควร คือมันอยู่ที่ว่าคนในภาพเขายินยอมให้ถ่ายไหม ถ้าเขาไม่ได้รู้เรื่องว่าโดนถ่าย นั่นคืออีกเรื่องหนึ่ง แล้วต่อให้ยอมโดนถ่าย คนรักกันก็ไม่ควรทำกันแบบนี้ ไม่ว่าจะมองทางไหนมันคือคำว่าไม่เหมาะสมหมดเลยค่ะ

ทุกวันนี้ยังมีสเป๊กในใจไหมว่า จะเลือกคบคนแบบไหน
โมชอบคนหลังสวย ชอบคนมีเสน่ห์ เคยเห็นการ์ตูนญี่ปุ่นไหมคะ ชอบหลังผู้ชายแบบการ์ตูนพวกนั้น เป็น V-shape ชอบคนหลังยาวๆ คือก็ยังมีสเป๊กว่าไม่ชอบคนบึก คนล่ำ นี่ไม่เอาเลย ชอบคนสะอาด สกปรกนี่ไม่เอา ก็เป็นสเป๊กผู้หญิงน่ะค่ะ แต่ถึงเวลาจริงๆ ต่อให้มีคนตามสเป๊กเดินเข้ามา แต่อยู่กับเราไม่ได้ มันก็อยู่กับเราไม่ได้อยู่ดี

โมเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดเผยในเรื่องของรสนิยมทางเพศในเชิงหญิงรักหญิงของตัวเอง โมคิดว่าสังคมไทยปัจจุบันเปิดกว้างกับกลุ่มรักร่วมเพศมากน้อยแค่ไหน
โมไม่ทราบว่าเขาเปิดกว้างหรือเปล่า แต่มันเป็นความสุขส่วนบุคคล และมันเป็นชีวิตของแต่ละคนที่เขาควรจะเลือกของเขาเอง ชีวิตคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับสังคม เพราะฉะนั้นถ้าเรามีความสุขที่จะทำอะไร ต่อให้โดนบังคับว่าต้องแต่งงานกับผู้ชาย ทำได้ แต่ไม่มีความสุข คนรอบข้างในชีวิตโมเขาจะแฮปปี้ไปกับโมไหมล่ะ จะเอาสังคมเป็นที่ตั้ง หรือจะเอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งก็ต้องเลือกน่ะ


จริงๆ โมก็เคยคบกับผู้ชายมาแล้ว จากประสบการณ์คบกับผู้ชาย มีความแตกต่างกับผู้หญิงอย่างไร
ต่างมากกกก (ลากเสียงยาว พร้อมหัวเราะ) ความละเอียดอ่อนมันต่างกัน ความเข้าอกเข้าใจมันต่างกัน มันต่างกันเยอะมาก แต่คือทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน มีขาวมีดำเหมือนกันหมด ทุกคนมันเป็นสีเทาหมด เพราะฉะนั้นโมไม่ได้บอกว่าทอมดีกว่าผู้ชาย และโมไม่ได้พูดว่าผู้ชายดีกว่าทอม มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะไปเจอคนประเภทไหน เพราะฉะนั้นโมตอบไม่ได้หรอกว่าอะไรดีกว่า อะไรไม่ดีกว่า ทอมเลวๆ ก็มี ผู้ชายดีๆ ก็เยอะ มันอยู่ที่ว่าเราไปอยู่กับใคร แล้วเราเป็นอย่างไร เขามาอยู่กับเรา แล้วเขาเป็นอย่างไรมากกว่า

ถึงที่สุดแล้วความรักสำหรับโมคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการได้รักใครสักคน
ต่างคนต่างเป็นตัวเองก็พอแล้ว เข้าใจกันไม่ยากเลย การมีความรัก อย่างน้อยที่สุดมันคือการได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อใครสักคน อย่างน้อยถ้าเรารัก และเราได้ทำให้คนคนนี้ มันก็พอแล้ว เช่น ถ้าวันหนึ่งโมไปรักใครข้างเดียว แล้วโมได้เห็นเขามีความสุข มันก็โอเคแล้ว ต่อให้เขาไปอยู่กับคนอื่น ไม่ได้อยู่กับเรา เราเห็นว่าเขามีความสุขดี แค่นั้นก็แฮปปี้แล้ว

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE