'น้ำเพชร' เคลียร์เรื่องรัก สเป็กผู้ชาย และความนัยวลีแน่นอก…ทุกวันนี้หนูหายใจก็ผิดแล้ว!


                สายๆ ของวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ‘ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ลงข่าวพาดหัวตัวโป้งว่า  ‘บัวขาว อ้างส่งภาษารักให้ น้ำเพชร แค่ใบ้หวย โวทองเพียบไล่แจกเละ’ โดยเนื้อข่าวระบุว่า บัวขาวยอมรับเรื่องการให้สร้อยคอทองคำน้ำเพชรจริง  
            “โอ้ย….ใจป้ำมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ชอบทำบุญทำทาน แจกเละเทะเลย ขออะไรก็ให้(หัวเราะ) ใครขออะไรให้หมด”
                อีกทั้งยังสำทับอีกว่า
                “ที่ซื้อทองก็เต็มใจให้ แต่ถ้าให้แล้วใครขออีกก็ให้อีก จะรถ จะทอง มีก็เอาไปเลย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วนะ(หัวเราะ) ไม่ระบุนะว่ากี่คน ใครขอก็ให้ รุ่นน้องใครมาทำงานกับเราเห็นเขาขยันเราก็ให้พิเศษตลอด อย่างผมเองยังได้ของจากผู้ใหญ่เลยเรายังดีใจ การให้เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เฉพาะสาวๆ น้องๆ มาขอเงินขอทองให้หมด ทองมันเปรียบเสมือนเงิน ไม่ได้มีอะไรที่เยอะ ทองเหลือเยอะ ตอนนี้ก็ยังดูอยู่ว่าจะหาที่เก็บที่ไหนดี”
                และยังกล่าวถึงกรณีภาพหลุด ที่ตนเองทำไม้ทำมือเป็นตัวอักษร L O V E
       “แอลโอวีอี นี่คือใบ้หวยให้ชาวบ้านเขา ก็ใบ้ๆ ไปงั้นๆ แหละ ก็ไม่มีอะไรมาก อย่างที่บอกคือให้เกียรติกัน เราก็ไม่ได้ว่าจะเป็นอะไรต่อ คือเราก็เงียบ ไม่มีอะไร เป็นปกตินิสัยผม มนุษย์สัมพันธ์ของผมอาจจะดีเกินไป”
               
                ก่อนการให้สัมภาษณ์ของ ‘บัวขาว’ ครั้งนี้จะเกิดขึ้น  mars มีโอกาสได้พบกับ “น้ำเพชร – สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ ” แม้เธอจะดูเริงร่ากับงานในวงการและธุรกิจเครื่องสำอางของตนเอง แต่เมื่อถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบของชีวิตกับมรสุมลูกแล้วลูกเล่าที่ถาโถมเข้ามาแล้ว เจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากว่า
            “ทุกวันนี้หนูหายใจก็ผิดแล้ว”  
            mars จึงขอให้น้ำเพชร “เปลือย” ข้อสงสัยที่สังคมกำลังมีต่อตัวเธอในหลายๆ กรณี และนี่คือคำตอบ 

เรื่องกับคุณบัวขาวที่กลายมาเป็นกระแสมาแรมเดือนแล้ว  
ถามจริงๆ จุดเริ่มต้นมันอยู่ตรงไหน  
ขอพูดแบบติดตลก ฮาๆ นิดหนึ่ง ไม่ว่าตอนนี้เวลาเดินไปไหน ยอมรับว่าคนรู้จักเราเยอะขึ้น มากกว่ากรณีมงกุฎ เรื่องนั้นชิดซ้ายไปเลย ต้องบอกก่อนเลยว่าศึกมงกุฎเหมือนกับเป็นข่าวฉาวระดับประเทศ แต่พอเป็นกับนักมวยปุ๊บ เป็นข่าวฉาวระดับโลก คือเสิร์ชจากเว็บจีน เว็บญี่ปุ่น เจอเราหมด (หัวเราะ) ช็อคนะคะ เวลาเดินไปไหน “นั่นไงๆ น้ำเพชรที่เป็นแฟนบัวขาว” โอ๊ย! อยากจะเดินเข้าไปบอก ไม่ใช่ค่ะๆ หรือบางทีขึ้นหน้าน้ำเพชรปุ๊บจะต้องตามด้วยนามสกุลบัวขาว น้ำเพชรไหน? น้ำเพชร บัวขาว! คือมันกลายเป็นนามสกุลเราโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็น เป็นเรื่องราวที่ตลก สนุกสนานในชีวิตละกัน
คือเป็นมายังไง? เราก็รู้จักกับพี่บัวขาวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 3-4 ปี รู้จักกันก่อนที่เขาจะมาชก Thai Fight ช่วงที่เขาออกมาจากค่าย ป.ประมุขใหม่ๆ เหมือนกำลังมีปัญหาชกมวยไทยไม่ได้ โดนฟ้อง มีอยู่ช่วงหนึ่งพี่เขาเลยอยากไปชก MMA คือ Mixed Martial Arts แล้วเขาไปซ้อมกับรุ่นพี่หนูซึ่งรู้จักกัน มีอยู่วันหนึ่ง ตอนนั้นหนู 18 ย่าง 19 แล้ว ประกวดดาวมหาวิทยาลัยก็เจอพี่บัวขาว ประกวดดาวมหาวิทยาลัยได้ตำแหน่งวันนั้น เจอพี่บัวขาววันนั้นเลยถ่ายรูปกันปกติ แลกพินบีบี แล้วก็คุยโทรศัพท์เป็นปกติ เป็นพี่น้องกัน เราก็ให้กำลังใจเพราะเป็นคนอีสานเหมือนกัน คนบ้านเดียวกัน ให้กำลังใจกันปกติ ตอนนั้นยังไม่ได้สนิทอะไรนะ มาเจอกันบ่อยขึ้นช่วงปีนี้ที่ไปชกมวย คือตัวหนูเองชอบกีฬานี้อยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ก็เล่นเทควันโด ตอนโตเป็นสาวก็อยากเล่นมวยไทย เพราะเป็นศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทย ด้วยความที่เรารู้จักกันมาก่อน ก็เลยไปเล่นค่ายพี่บัวขาว พี่บัวขาวก็มีมาสอนบ้างแบบพี่น้อง ไม่ได้มีอะไร
 
ตอนนั้นพี่บัวขาวเข้ามาจีบหรือเปล่า 
สำหรับเขาหนูไม่รู้นะคะ แต่สำหรับหนู ตอนนั้นหนูก็มีศึกชิงมงกุฎแล้วล่ะ เหมือนเราเองตอนนั้นก็ท้อๆ นั่งไปร้องไห้ไป พี่เขาก็เข้ามาปลอบ มาให้กำลังใจเราตลอด เราก็รู้สึกดีเหมือนมีพี่ชายคนหนึ่ง แล้วคือหนูไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ แต่ส่วนเขาหนูก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรยังไง หนูก็ปกติ แต่เพื่อนๆ เห็นก็บอกว่ามันแปลกๆ นะ คือเหมือนกับความสัมพันธ์มันเกินพี่น้องหรือเปล่า ทำไมปลอบกันบ่อยจัง ทำไมโทรหากันบ่อยจัง ซึ่งหนูเองก็ไม่ได้คิดอะไร  เคยพาเพื่อนไปซ้อมมวยที่ค่ายเหมือนกัน เพื่อนก็บอก เฮ้ย! ทำไมพี่บัวขาวโทรหายูบ่อยจัง เราก็บอกว่าเขาคงเป็นห่วงละมั้ง คุยกันมาเรื่อยๆ มีไปทานข้าวกันบ้าง เจอหน้ากันก็ชวนกินข้าว พอถึงวันเกิดหนู หนูก็ชวนเขา เขาก็ติดงานไปเชียงรายมาไม่ได้ กลับมาก็ไปทานข้าวกันที่ห้างแห่งหนึ่ง พี่เขาก็ให้ของขวัญวันเกิด แค่นี้ละค่ะ ของขวัญวันเกิดก็ตามที่เป็นข่าว สร้อยกับพระองค์หนึ่ง
 
แต่ก่อนนั้นมีบางข่าวรายงานว่าทางฝั่งบัวขาวบอกว่าไม่ได้ให้  
หนูก็ยังงงอยู่นะคะ คือเขาเป็นคนพูดหรือผู้จัดการเขาคะ ประเด็นนั้นใครจะพูดว่ายังไงไม่สำคัญ แต่ว่าวันที่ให้ก็มีพยานเป็นน้องศศิ สินทวี  Miss Earth Thailand (2014) อยู่ด้วย คือไม่ได้อยากให้มองว่าเขาให้สร้อย อยากให้มองว่าเป็นให้พระมากกว่า เหมือนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ไปไหนก็ให้แคล้วคลาดปลอดภัย เหมือนให้ความห่วงใย คุ้มครองเรามากกว่า ให้พระสมเด็จคะแนน วัดไหนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะหนูเองก็ไม่ได้รู้เรื่องพระเท่าไหร่ จริงๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าให้พระอะไร แต่พอมาเป็นข่าวถึงได้รู้ว่าพระอะไร

 
แล้วทำไมถึงเป็นดราม่าได้ เกี่ยวกับผู้จัดการบัวขาวหรือเปล่า  
อาจจะมีส่วน ต้องยอมรับว่าพี่เขาก็ดูแลกันมานาน คือตรงนี้เขาอาจต้องปกป้องภาพลักษณ์หรือคนในสังกัดของเขาให้มีภาพลักษณ์ที่ดีเพราะเป็นนักกีฬาที่มีแฟนคลับทั่วโลก มีแฟนไม่ได้ แต่หนูก็คิดว่า เรื่องนี้ไม่ว่าหนูจะคุยกันในฐานะอะไรมันก็เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นตรงนี้หนูคิดว่ามันก็ไม่ควรมาทำร้ายกันแรงๆ แบบนี้ ไม่ควรเอารูปที่เป็นแผลเรามาโพสต์ลงในเพจ ทำให้ทุกคนเข้ามาด่าเรา มันก็เลยกลายเป็นดราม่า กลายเป็น…ตายแล้ว! เรายังไม่ได้ผิดอะไรเลย แค่ออกไปยอมรับว่าเรารู้จักกัน ไม่ได้เป็นแฟนกัน หนูไม่เคยพูดสักคำเดียวเลยว่าหนูเป็นแฟนกับคุณบัวขาว ไม่ว่าจะให้สัมภาษณ์ที่ไหนหนูไม่เคยบอกว่าเป็นอะไรกัน
 
แล้วข่าวออกมาได้ยังไงว่าเคยไปกุ๊กกิ๊ก หรือนักข่าวไปมโนกันไปเอง หรือตีความกันไปเอง?
ตรงนี้หนูต้องขอโทษจริงๆ หนูไม่สามารถพูดอะไรได้ทั้งหมด ตัวหนูเองก็เป็นผู้หญิง แต่หนูอยากให้ทำความเข้าใจตามภาพที่ออกมาละกัน หนูไม่มีคำพูด 

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีภาพบัวขาวทำสัญลักษณ์มือ LOVE ภาพนั้นเขาว่ากันว่าเป็นภาพที่หลุดออกมาจากเครื่องของน้ำเพชร ซึ่งโทรศัพท์หาย?
เรื่องนี้หนูเองก็หนักใจนะคะ ทุกคนมองว่าหนูสร้างกระแส แต่อยากให้มองกลับกันอีกแบบหนึ่ง หนูเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา สมควรไหมที่หนูต้องโดนด่า แล้วเหตุการณ์ การกระทำทุกอย่าง คือหนูมโนเองไปไม่ได้ มันก็มีเขาอยู่ในรูป ทีนี้หนูอยากให้ทุกคนลองคิดอีกด้านหนึ่ง ลองให้เป็นกลาง ถ้าวันนี้หนูเป็นผู้หญิงที่ไม่มีข่าวฉาว เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง คนยังจะด่าหนูแบบนี้อีกไหม ลองเป็นกลาง ลองลืมไปก่อน ลองลืมภาพที่หนูมีข่าวฉาว ตรงนี้มันยุติธรรมแล้วเหรอกับการกระทำที่กับคนที่เล่นกีฬาแมนๆ เล่นกีฬาแบบลูกผู้ชาย เขาทำกันแบบนี้เหรอคะ?
 
ถ้ามองในมุมน้ำเพชร เหมือนกับกำลังจะบอกว่าถูกผู้ชายรังแก?
ไม่รู้จะพูดยังไงนะคะ ทุกวันนี้หนูหายใจก็ผิดแล้ว ถามว่าแรงไหม ชีวิตนี้หนูขึ้นไปประกวดหนูก็ผิด หนูอ้าปากพูดอะไรหนูก็ผิด ไม่ว่าหนูจะทำอะไรหนูก็ผิด พูดความจริงก็ผิด พูดโกหกหนูก็ผิด เอาเป็นว่าหนูหายใจหนูก็ยังผิดเลยค่ะ
 
กระแสสังคมตัดสินเราเร็วเกินไป ไม่รอฟังเราก่อน อย่างนั้นใช่ไหม?
ส่วนใหญ่มันเป็นอย่างนั้นค่ะ ตอนนี้น้ำเพชรก็น้อยใจตัวเองอยู่นะ คือเกิดเป็นน้ำเพชรทำอะไรก็ผิด เราก็เคยท้อ ไม่รู้ว่าชีวิตจะเริ่มต้นใหม่ยังไง ไม่มีใครอยากให้คนมาเกลียดหรอก ไม่มีใครอยากให้คนมา มาว่าเราแรงๆ แบบนี้ ทุกคนบอกไม่ต้องคิดอะไรหรอก แต่ลึกๆ เราคิด แล้วเราก็ร้องไห้เสียใจ แต่พอคิดอีกมุมหนึ่ง เอาตรงที่เขาด่ามาเป็นแรงบันดาลใจ แล้วก็ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น มีความหวังเล็กๆ ว่าคนที่เขาด่าเราวันนี้ วันหนึ่งเขาอาจจะชอบเราก็ได้ อาจจะเปลี่ยนจากที่ด่ามาให้กำลังใจเราก็ได้
ตรงนี้มันเหมือนกับนักวิจัยที่เขาวิจัยออกมาว่า พฤติกรรมการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กของคน คือด่าเขา ไม่ชอบเขา เกลียดเขา แต่ตามเขา มันก็เป็นเรื่องที่ควบคุมหรืออธิบายได้ จริงๆ แล้วหนูต้องขอบคุณคนที่ไม่ว่าจะเป็นคนที่ให้ความคิดเห็น ให้กำลังใจ คอมเม้นต์มาในอินสตาแกรม หนูอ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ คือตอนนี้ธรรมะอาจจะสอนให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่พอเรามาเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นบุคคลที่ใครๆ ก็รู้จัก สามารถคอมเม้นต์ว่าหรือติชมเราได้ ตรงนี้กลับกลายเป็นว่ากำลังใจมันสำคัญกับเรานะ อย่างที่หนูบอก หนูพยายามที่จะอ่านคอมเม้นต์ที่ไม่ดี บางทีหนูอ่านไปร้องไห้ไป แต่น้ำตาเหล่านั้นมันกลายเป็นกำลังใจ ให้เราทำสิ่งดีๆ สักวันหนึ่งตั้งความหวังไว้ให้เขากลับมาชื่นชอบในตัวเรา
 
ล่าสุดที่น้ำเพชรให้สัมภาษณ์สื่อสื่อหนึ่งในกรณีเกี่ยวกับเพศที่สาม ทำไมมันถึงเกิดกรณีต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
จากบทสัมภาษณ์หนูก็พูดครอบคลุมไปแล้วนะคะ หนูเองไม่ต้องการที่จะเอาเรื่องเพศมาเป็นประเด็น เพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ถ้าเกิดสื่อสารผิดพลาดกันแค่นิดเดียว คือผิดถูกมันเป็นแค่เส้นกั้นบางๆ แต่หนูขอไม่พูดถึงผู้จัดการคนนั้นแล้ว หนูอยากจะพูดถึงมุมมองของหนูว่า ชีวิตหนูประสบความสำเร็จมาได้ส่วนหนึ่งก็เพราะเพศที่ 3 แต่งหน้า ทำผม เป็นเบื้องหลังให้ ทำให้ทุกอย่าง ตอนเดินสายประกวดนางงามก็มีพี่เลี้ยงนางงามซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเพศที่ 3 เพราะฉะนั้นเพศที่ 3 มีพระคุณกับหนูมากนะคะ ตรงนี้หนูคิดว่าเรื่องเพศอย่าโยงมาให้เป็นประเด็นดีกว่า อย่าโยงว่าหนูไม่ให้เกียรติเขา เพราะตอนแรกหนูก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ากลุ่มเกย์มีความรู้ มีความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนๆ หนูที่เป็นเกย์ก็มีอยู่เยอะ เรื่องเพศอย่าเอามาเป็นประเด็นเลยดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตามให้เราพิจารณาเป็นการกระทำกับคนนั้นๆ ไป คือตรงนี้หนูพูดไปแล้ว แต่พอเขาไปสัมภาษณ์มาหนูก็ไม่รู้ว่าทำไมสัมภาษณ์ให้มันยาวต่อ ตอนนี้หนูเองเลยไม่รู้ว่าใครสร้างกระแส หนูอยากจบค่ะ แต่คนอื่นเขาให้มันเป็นกระแสต่อเรื่อยๆ กันอีก อันนี้หนูขอพูดว่า “ก็ไม่รู้สินะ” คือเกิดเป็นน้ำเพชรหายใจก็ผิดแล้ว สรุปสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครจะถูกหรือใครจะผิด น้ำเพชรผิด
 

ยังรักพี่บัวขาวอยู่ไหม 
เฮ้ย! อุ๋ย (หัวเราะ) คือความรู้สึกที่มีให้เขา ที่มีมาตลอด มันยังไม่ถึงกับเป็นความรักหรอกค่ะ เป็นความรู้สึกดีๆ ที่ครั้งหนึ่งคนที่เราคิดว่าดี ทำดีกับเรา เป็นภาพความทรงจำดีๆ มากกว่า
 
ทุกวันนี้มีใครดูแลหัวใจหรือยัง
ทุกวันนี้หัวใจยังว่างค่ะ หนูต้องบอกก่อนเลยว่า หนูเป็นผู้หญิงที่มีข่าวฉาวระดับประเทศ คนที่จะเข้ามา หนูเองก็ต้องระวังไว้ เราต้องป้องกันตัวเองเหมือนกันว่าเขาจะรับในตัวตนของเราได้หรือเปล่า เขาจะรักในตัวตนที่แท้จริงของเราไหม ในอนาคตถ้าเกิดมันจะมีใครเข้ามาดูแลหัวใจเรา หนูอยากให้เป็นในลักษณะเป็นเพื่อนกัน เป็นพี่น้องกันนานๆ ก่อน หนูเองก็ไม่อยากจะมีข่าวรักๆ เลิกๆ คือการมีความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่ตอนนี้ทั้งชีวิตหนูของมอบความรักให้กับครอบครัวและธุรกิจของหนู แล้วก็ตัวหนูเอง ต้องบอกก่อนว่ากว่าจะเกิดเป็นธุรกิจตรงนี้ขึ้นมาได้ มันใชทั้งแรงกาย แรงใจ ความหวัง ศรัทธา และใช้พลัง กว่าจะมาเป็น Miqi Skincare หนูรักเขามาก เพราะฉะนั้นหนูขอมอบความรักของหนูให้กับเขาดีกว่า ตอนนี้หนูตั้งโจทย์ของหนูว่าอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ดูสิว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นยังไง
 
แล้วผู้ชายในสเป็คล่ะ
คือเรื่องนี้รูปลักษณ์ภายนอกอย่าเอามาตัดสินเลยดีกว่า ถ้าเราได้คุยกัน ไม่ว่าจะเป็นใคร ได้คุยกัน มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน มีกิจกรรมที่ทำร่วมกันแล้วมันทำให้ได้พัฒนาเป็นความรัก แบบนี้ทุกคนเป็นสเป็คหมดแหละ ต้องมาเรียนรู้กันก่อน ไม่ได้รักคนที่หน้าตาเลย รักคนที่ใจ ใจพี่แมนหรือเปล่า (หัวเราะ) ภาพลักษณ์หนูอาจจะดูฉาว แต่หนูไม่ใช่ผู้หญิงฉาบฉวยนะคะ ถึงไม่สวยหนูก็เลือกนะคะ คือการมีความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าจะมีใครมาดูแลหัวใจ ขอพักไว้ก่อน อย่างที่บอกขอมอบความรักให้ตัวเอง ให้ธุรกิจ ให้ครอบครัว
 
ผู้ชายหล่อไม่สนใจ แล้วผู้ชายรวยล่ะ
ถามว่าหล่อและรวย ถ้าเราได้มาเป็นแฟนก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดี แต่เรื่องตรงนี้อย่าไปกำหนดมันดีกว่า เพราะสมัยนี้เม็ดเงินมันไม่สามารถชี้วัดความสุขเราได้ ขอให้เราคบกันแล้วอยู่กันแบบตรงกลาง ไม่จำเป็นต้องมีวิมานวาดฝันขนาดนั้น ไม่จำเป็นค่ะ อยู่ที่ว่าใช้ชีวิตจริงๆ แล้วทุกอย่างเรามีความสุข เราเข้ากันได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องฐานะการเงิน น้ำเพชรเชื่อเรื่องการยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง การที่เรารักตัวเอง การอยู่ด้วยตนเองเป็น ไม่ว่าเราจะคบกับใคร รักกับใครกี่ครั้ง เลิกกับใครกี่หนเราก็สามารถยืนอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีแฟนรวยแล้วฉันจะไปช็อปปิ้งได้ยังไง ไม่ใช่! ฉันก็หาตังค์ของฉันเองได้
 
ผู้ชายคนนั้นต้องนิสัยยังไง
ผู้ชายคนนั้นต้องมีนิสัยเป็นผู้นำ น้ำเพชรขาดผู้นำในครอบครัว น้ำเพชรต้องการผู้นำบางเวลา เป็นผู้ใหญ่ คอยให้กำลังใจ ช่วยแก้ไขปัญหา ส่วนใหญ่น้ำเพชรก็ไม่มีอะไร จะเป็นเรื่องการทำงาน ชอบคนฉลาดจะได้ช่วยกันทำมาหากินได้ แต่ฉลาดไม่ได้หมายความว่าต้อง IQ สูงอย่างเดียว EQ สูงก็ได้ หรือถ้าได้ทั้งสองอย่างก็ปลื้มเลย สเป็คหนูนอกจากฉลาดก็ต้องเป็นผู้นำ เอาใจใส่ ดูแลเทคแคร์ และไม่เจ้าชู้ ที่ผ่านมาก็เคยเจอคนเจ้าชู้บ้าง แต่ไม่ขอพูดถึงดีกว่ากับความรักที่มันผ่านไป คือไม่ว่าความรักจะเป็นยังไง จะจบสวยหรือไม่สวย แต่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นความรัก เพราะฉะนั้นเก็บมันแต่เรื่องดีๆ แล้วกัน ความรักสวยงามเสมอ คุณสมบัติประมาณนี้ก็อยู่ด้วยกันได้แล้วค่ะ แต่บางมุมก็ชอบผู้ชายขี้อ้อน เราจะชอบคนขี้อ้อน เป็นโมเม้นต์ที่น่ารักดี อย่างทำงานมาเครียดๆ เหนื่อยๆ ถ้าเกิดมีแฟนที่คอยให้กำลังใจแล้วอ้อนเราอีก มีความสุขเลย
 
บอกคนตั้งฉายาให้ว่า น้ำเพชรเป็นเจ้าแม่คำปริศนา ถามจริงๆ ทำไมไม่พูดอะไรไปตรงๆ เลย
เจ้าแม่คำปริศนา (หัวเราะ) ขอบคุณสำหรับฉายาใหม่ ถามว่าในโลกนี้มันไม่มีอะไรตรงๆ แล้วถูกไปหมด คือในโลกนี้มันไม่มีอะไรตายตัว ชี้ชัดไม่ได้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด อันไหนจริงอันไหนเท็จ มันวัดกันไม่ได้ มาตรฐานคนเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่หนูไม่พูดไปร้อยเลย คือเราเองฟันธงไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าใช่หรือไม่ใช่ เราก็ได้แต่ประมาณว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น คนที่เสพสื่อหนูก็เชื่อว่าทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง อาจจะคิดต่อได้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ถ้าเราขวานผ่าซากไปทั้งหมดมันก็ไม่ดีเท่าไหร่ หนูคิดว่าตอบสัมภาษณ์อย่างมีเชิงวิจารณญาณ ให้ทุกคนได้แชร์ความคิดกันน่าจะดีกว่า บางทีการตรงไปตรงมาอาจจะมาฆ่าตัวเราเอง
 
 
ฝากอะไรถึงคนที่คอยจ้องแต่จะว่าเรา ทำร้ายเรา โจมตีเรา กล่าวหาเราตลอดเวลา
อยากฝากถึงทั้งสองกลุ่มเลย อยากฝากถึงคนที่ตอนนี้เข้ามาติดตาม ให้กำลังใจเรา หนูขอบคุณมากสำหรับกำลังใจเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้หนูสู้ต่อไปได้ ไม่ว่าหนูจะเจอปัญหาอุปสรรคแค่ไหน หนูเปิด IG หรือ facebook ของหนูไปเจอกำลังใจจากพี่ๆ หนูขอบคุณทุกคนที่เมตตาและให้กำลังใจ แล้วก็ขอขอบคุณกุญแจสำคัญที่ทำให้หนูมีวันนี้ก็คือพี่ๆ สื่อมวลชนและผู้ใหญ่ทุกท่าน
พี่ๆ สื่อมวลชนมีอิทธิพลต่อหนูมาก ขอบคุณที่เมตตา คอยให้กำลังใจ ถ้าไม่มีใครทำข่าวน้ำเพชร วันนี้น้ำเพชรก็ยังเป็นดินก้อนหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก ขอบคุณคนที่จ้องจะด่าน้ำเพชร เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้น้ำเพชรเข้มแข็งและไม่ลืมตัวเอง และน้ำเพชรจะเอามาพัฒนาตัวเอง 
เรื่อง : PAN
ภาพ : สุวิทย์ กิตติเธียร

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE