สัมภาษณ์ ‘อนุกูล สอนเอก’ ผู้เคยสำรวจถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน “ต้องเอาน้ำออกให้มากกว่าน้ำเข้าถึงจะช่วยเหลือออกมาได้”


จากกรณีความคืบหน้าการค้นหานักเตะเยาวชนทีม “หมูป่า” อายุตั้งแต่ 11 – 16 ปี พร้อมผู้ฝึกสอนหรือโค้ช อายุ 25 ปี จาก ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวม 13 ชีวิต พลัดหลงอยู่ภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุด ‘อนุกูล สอนเอก’ นักภูมิศาสตร์ที่เคยสำรวจ ‘ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน’ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ และประเมินสถานการณ์ในรายการ ‘สนามข่าว 101’ ทางสถานีวิทยุ FM 101 ออกอากาศวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2561 ดำเนินรายการโดยคุณพัฒน์พงศ์ สำเนียงเสนาะ และ คุณนฤมล พุกยม โดยมีใจความที่เนื้อความที่ทำให้เห็นลักษณะทางภูมิศาสตร์ของถ้ำอย่างชัดเจน และวิธีที่จะนำทั้ง 13 ชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้นต้องสูบน้ำออกให้มากกว่าน้ำที่เข้าเท่านั้น โดยมีรายละเอียดการให้สัมภาษณ์ดังนี้

พัฒน์พงศ์ : เท่าที่ได้ติดตามการช่วยเหลือ คุณอนุกูลมองยังไง
อนุกูล : สำหรับการช่วยเหลือคือ จริงๆ ในถ้ำนี้ลักษณะในถ้ำยังไม่ได้อันตรายเท่าไหร่เพราะว่า เพดานถ้ำค่อนข้างจะสม่ำเสมอ มันจะไม่มีเหวไม่มีอุปสรรค แต่ว่าปัญหาคือ เพดานถ้ำบางส่วนระดับมันจะต่ำมากเพราะฉะนั้นในช่วงฤดูฝนตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนเนี่ย เมื่อไหร่ที่ฝนตกลงมาแล้วน้ำซึมเข้ามาในถ้ำจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้เพดานบางช่วงกลายเป็นท่อลอดมีน้ำเต็มหมด อันนั้นคืออุปสรรคมากๆ ที่ทีมค้นหาจะต้องเจอ

พัฒน์พงศ์ : คุณอนุกูลเคยเข้าไปสำรวจถ้ำที่ว่านี้ และเคยไปในจุดที่เชื่อว่าบรรดาน้องๆ หลบอยู่ เคยเข้าไปถึงตรงนี้ไหมครับ
อนุกูล : เคยครับ ตอนนั้นที่ผมเข้าไปสำรวจเป็นแผนการพัฒนาถ้ำหลวงนางนอนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ผมเป็นทีมที่เข้าไปสำรวจทำแผนที่ถ้ำโดยละเอียด แล้วเราก็เข้าไปได้กิโลกว่าๆ ทำแผนที่เข้าไป ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปได้เพราะว่ามันจะไม่ค่อยอันตราย แต่มันจะอันตรายในช่วงแรกๆ เพราะว่ามันจะมีเพดานถ้ำที่ต่ำ และช่องแคบๆ ที่จะต้องคลานลอดเข้าไป ในช่วงที่เราสำรวจเป็นช่วงหน้าแล้งซึ่งน้ำไม่มีเลย
วันสุดท้ายที่เราสำรวจเสร็จเรากลับออกมานอนที่อุทยานที่บ้านพัก ตอนเช้าขนอุปกรณ์เข้าไปปรากฏว่าน้ำไหลออกมาจากถ้ำ ซึ่งพอเราพยายามจะเข้าไป ในช่วงแรกของถ้ำน้ำจะเต็มเพดานมากเลย ทีมสำรวจเราไม่สามารถเข้าได้ แต่ช่วงใน หลังจากที่เราผ่านเซ็กชั่นนี้ไปแล้ว ยาวประมาณ 60-80 เมตรเลยเข้าไปเพดานถ้ำจะสูงขึ้น มีช่องอากาศอยู่บ้าง แล้วก็จะมีจุดที่เป็นพื้นที่หินถล่มอยู่ 2 จุดซึ่งตรงนั้นจะเป็นพื้นที่แห้ง ถ้าคนทั้ง 13 คนเขาหาพื้นที่สูงในพื้นที่นั้นได้ เขาสามารถรอการช่วยเหลือได้ครับ

พัฒน์พงศ์ : พื้นที่สูงที่คุณอนุกูลอธิบาย พื้นที่ตรงนั้นมีอากาศและพื้นที่มากพอที่จะให้บรรดาน้องๆ 13 คนเขาอยู่ตรงนั้นได้ใช่ไหมครับ
อนุกูล : ใช่ครับ มากพอ แต่ว่าตอนนี้ผมพยายามจะเช็คข้อมูล เพราะว่าผมสำรวจตั้งแต่ปี 2535 และเราก็สำรวจไปได้สักกิโลกว่าๆ แล้วก็สำรวจครั้งที่ 2 กับทีมสำรวจต่างประเทศเนี่ย เราเข้าไปได้สัก 6 กิโลเมตร แต่ว่าปัจจุบันนี้ทีมของอังกฤษสำรวจเสร็จสิ้นแล้วความยาวทั้งหมดอยู่ที่ 10 กิโลเมตร ซึ่งมันเป็นเซ็กชั่นที่เข้าถึงค่อนข้างยาก แล้วก็มันจะเป็นอุโมงค์โถงโคลน คิดว่าหน้าฝนน่าจะมีน้ำอยู่ ซึ่งพอหลังจากที่นักท่องเที่ยวเข้าไป
โถงถ้ำมันจะไม่ใหญ่มาก มันจะเป็นทางเดินแล้วถูกล็อกด้วยผนังถ้ำทั้งหมด ทางแยกจะมีน้อยมาก ซึ่งการที่จะเจอเส้นทางเข้านั้น คุณจะต้องลอดไซฟอน (siphon) อยู่ 1 จุด ซึ่งการหาเส้นทางไปมันจะค่อนข้างยากสำหรับคนที่ หนึ่งคือไม่มีทักษะในการสำรวจ สองคือคนที่อุปกรณ์ไม่เพียงพออย่างเช่น ถ้าคุณไปเที่ยวถ้ำคุณไม่ได้เตรียมตัวมา 13 คนมีไฟฉาย 2 กระบอกมันเป็นไปได้ยากมากเลยที่จะเข้าไปถึงพื้นที่โซนในสุดของถ้ำ

นฤมล : อย่างระยะเวลาที่น้องๆ เขาเดินไปคุณอนุกูลคิดว่าน้องๆ เขาสามารถเดินได้กี่กิโลเมตร
อนุกูล : ตามปกติถ้าเดินในถ้ำ ความเร็วของผมในกรณีที่ผมไม่รู้เส้นทาง ความเร็วจะไม่เกิน 1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเราจะต้องหาทาง ต้องหยุดดูทาง สำรวจ แต่ถ้าเรารู้ทางแล้วน่าจะไวกว่านั้น

พัฒน์พงศ์ : เมื่อกี้ที่คุณอนุกูลอธิบาย คนต้องขนาดผู้ใหญ่ใช่ไหมที่สามารถลอดไปได้
อนุกูล : ใช่ครับ ในเซ็กชั่นแรกประมาณตัวผู้ใหญ่ที่สามารถลอดเข้าไปได้ และจะต้องคลานด้วย เพราะเพดานถ้ำมันสูงแค่ประมาณ 50 ซม. แค่นั้นเอง

พัฒน์พงศ์ : มันเป็นช่องเข้าไปเพื่อที่จะไปอีกโพรงหนึ่ง?
อนุกูล : ถูกต้องครับ แล้วมันเป็นช่องคลานที่ยาวประมาณสัก 60 เมตร คุณจะต้องคลานสูงคลานต่ำบ้างเพื่อลอดตัวเข้าไป ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ที่น้ำท่วมแล้ว เซ็กชั่นนี้จะเป็นเซ็กชั่นที่ออกยากมาก

พัฒน์พงศ์ : พอน้ำมันผ่านปั๊บทางออกก็ไม่มี ตามข่าวนี่บอกว่าเข้าทางเดียวออกทางเดียว มีทางอื่นที่จะเข้าไปได้ไหมครับคุณอนุกูล
อนุกูล : ไม่มีครับไม่มี ยืนยันว่าไม่มี เข้าออกทางเดียวเท่านั้น

นฤมล : คุณอนุกูลได้เสนอวิธีการแบบไหนคะในเรื่องของระดับน้ำที่ฝนเข้ามาเติมอย่างนี้ค่ะ
อนุกูล : ตอนนี้ผมยังไม่ได้เห็นหน้างาน แต่ผมคาดการจากสภาพถ้ำที่เคยเห็น คืออย่างถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจะคล้ายกับถ้ำหลวงเชียงดาว คือมันเป็นเทือกเขา แล้วก็มีหินปูน พอฝนตกลงมา น้ำซึมลงมาตรงรอยแตกและเก็บตัวอยู่ในชั้นน้ำใต้ดินแล้วบังเอิญด้านล่างมีโพรงถ้ำ เพราะฉะนั้นน้ำที่เข้ามาไม่ใช่น้ำจากลำห้วย ดังนั้นน้ำที่เพิ่มเข้ามาจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนและปริมาณการซึมลงมาจากด้านบน นั่นหมายความว่าเมื่อไหร่ที่น้ำขึ้นแล้วมันจะลงค่อนข้างยากหรือใช้เวลาที่ยาวนานกว่าลำห้วยปกติ
แต่ว่าข้อดีคือ การท่วมฉับพลันมันจะน้อย มันจะค่อยๆ ขึ้น ในจุดที่เพดานถ้ำต่ำ การเอาทีมดำน้ำเข้าไปสามารถเป็นไปได้ แต่ปัญหาคือเวลากลับออกมา ซึ่งคุณตามน้ำมาคุณจะต้องลอดผ่านช่องมันจะอันตรายมากขึ้นตราบใดที่เราเอาเด็กออกมาแล้วเด็กไม่มีทักษะของการใช้อุปกรณ์ดำน้ำ หรืออุปกรณ์ที่มันพิเศษ
วิธีที่ง่ายที่สุดคือคุณต้องลดระดับน้ำในถ้ำลง คือคุณต้องสูบน้ำออก แต่ว่าปริมาณการสูบน้ำมันต้องมากกว่าน้ำที่มันเข้ามา (พัฒน์พงศ์ : น้ำเข้านี่เป็นลักษณะของน้ำซึม?) ใช่ครับน้ำซึมและปริมาณค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นคุณต้องสูบน้ำออกให้น้ำลดระดับลงจนถึงเพดานถ้ำที่มันจมอยู่ใต้น้ำ ถ้าเมื่อไหร่มันมีอากาศอยู่ได้เขาสามารถลอดออกมาได้

พัฒน์พงศ์ : ก็เหมือนกับเราลอยคอ ให้จมูกไปติดกับเพดานถ้ำ เพื่อให้อากาศมันมี
อนุกูล : ถูกต้องครับ เพราะว่าเทคนิคนี้นักสำรวจถ้ำเวลาเจอโถงแต่ว่าน้ำเต็มแต่เขาเชื่อว่าไปต่อได้ ถ้ามีช่องให้จมูกอยู่ในช่องว่างให้มีอากาศหายใจเขาก็จะเข้าไป
พัฒน์พงศ์ : เพราะว่ามันเป็นการบ่งบอกว่ามีอากาศอยู่ภายใน
อนุกูล : ถูกต้องครับ

พัฒน์พงศ์ : ปกติถ้ำนี้เวลานักท่องเที่ยวเข้าไปเข้าจำกัดเส้นทางประมาณกิโลสองกิโลใช่ไหมครับ ไม่ได้เป็นทางให้เข้าไปข้างได้เลย
อนุกูล : ใช่ครับ ซึ่งถ้าคุณเข้าไปในถ้ำแล้วไฟฉายคุณไม่ดี ปัญหามันจะเกิดขึ้นแน่นอนครับ คืออย่างผมพยายามคาดการณ์ เห็นข่าวว่าซ้อมกีฬาซ้อมฟุตบอลเสร็จ ผ่านถ้ำแล้วก็เลยแวะชม ผมไม่แน่ใจว่าเขาเตรียมตัวเข้าถ้ำมาขนาดไหน แล้วการที่คน 13 คนเตรียมไฟฉายที่มีคุณภาพสูงมาทุกคนก็เป็นไปได้ว่า ความเร็วในการเดินสามารถเดินเข้าไปเซ็กชั่นในสุดได้ แต่ว่าเวลาคุณผ่านจุดหินถล่มไปแล้ว เซ็กชั่นนั้นส่วนใหญ่จะเป็นโคลน ซึ่งในถ้ำมันไม่มีอะไรสวยงามไม่มีอะไรน่าสนใจ
ผมกำลังคาดการณ์ว่าเขาอาจจะมีไฟฉายไม่เพียงพอ ซึ่งเวลาเข้าไปมันจะมีการรอกันซึ่งจะใช้เวลาเยอะมากกว่าปกติ แล้วพื้นที่บางส่วนเขาอาจจะรู้ว่าน้ำท่วมเพราะเขาถอดรองเท้าทิ้งไว้ แล้วในส่วนจุดหินถล่ม หินในถ้ำส่วนใหญ่จะมีความคม ซึ่งการที่คนจะถอดรองเท้าและปีนหินถล่มเนี่ย มันจะช้ามาก ผมก็เลยค่อนข้างเชื่อว่า เขาจะอยู่ไม่ไกลจากโซนนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ครับ

พัฒน์พงศ์ : ถ้าดูจากแผนที่คร่าวๆ ที่คุณอนุกูลสำรวจมาแล้วส่งมาให้เราดูเนี่ยมันคล้ายๆ กับตัว T ใช่ไหมครับ แล้วตัว T มันมีระยะประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเราเดินตรงไปมันจะมีทางเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา
อนุกูล : ถูกต้องครับ ถ้าสมมุติเราเลี้ยวขวาตรงมังค์ซีรีย์ (Monk's series) ตรงนั้นจะเป็นไซฟอน ทีมสำรวจก็ไม่สามารถเข้าไปได้เพราะน้ำเต็ม เขาถึงใส่เส้นประไว้ มันเป็นสัญลักษณ์ที่นักสำรวจถ้ำเข้าทำกันน่ะครับ แล้วเขียนเครื่องหมาย ? ไว้ เพราะถ้ำนี้เขายังไม่เคยเข้าเพราะน้ำเต็มแต่คาดการณ์ว่ามันน่าจะไปได้ แล้วเขาก็สำรวจออกทางแยกซ้ายมือลงมาด้านล่าง

พัฒน์พงศ์ : ซึ่งทุกคนเชื่อตรงกันว่าทางแยกซ้ายมือคือเส้นทางที่บรรดาน้องๆ ไปทางนี้ ถูกไหมครับ
อนุกูล : คิดว่านะครับ ผมพยายามสอบถามทีมที่เข้าเมื่อคืนนี้ว่าทีมที่เข้าไป เข้าไปยังตำแหน่งไหนเพราะว่าจะได้ลงตำแหน่งว่าตรงกับที่ผมวงไว้ไหม หรือว่าน้องจะมีโอกาสที่จะเข้าไปด้านใน หรือว่าเข้าไปด้านในเขาจะต้องเจออะไร เพราะว่าสัญลักษณ์บนแผนที่มันจะบอกหมดเลยครับว่าสโลปอยู่ตรงไหน เพราะถ้าเราเห็นลูกศรบนแผนที่ นั่นหมายถึงสโลป แต่ถ้าลูกศรมันวิ่งเข้ามาหากันนั่นหมายถึงสโลปวิ่งเข้ามารวมกัน ซึ่งตรงนั้นคือไซฟอนแน่นอน แต่ว่าในช่วงทำแผนที่พื้นถ้ำมันแห่งอยู่ มันยังไม่มีน้ำ เพดานถ้ำมันยังไม่ถูกปิดด้วยน้ำ

พัฒน์พงศ์ : มีอากาศแต่ว่าไม่มีแสงสว่างเลยใช่ไหมครับ ต้องใช้ไฟฉายเท่านั้น
อนุกูล : ถูกต้องครับ แล้วเวลาที่คุณไปอยู่ในสภาพนั้นคุณจะมืดสนิทเลยนะครับ อย่างเวลาคุณอยู่ข้างนอกคุณหลับตาคุณจะเห็นแสงวิ้งๆ อยู่ แต่เมื่อไหร่ที่คุณอยู่ในถ้ำมันจะมืดสนิท มันคือดาร์คเลยครับ ซึ่งมันจะค่อนข้างน่ากลัวนิดหนึ่ง แล้วการหาทางออกถ้าสมมุติว่าไฟฉายมีปัญหาจะหาทางออกยากมาก เพราะคุณจะไม่รู้ทิศทาง คุณจะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

พัฒน์พงศ์ : ฟังจากคุณอนุกูล ทางเลือกก็คือสูบน้ำให้ได้มากที่สุด เมื่อสักครู่ท่านผู้ว่าเข้ามาในสายบอกว่า ตอนนี้ฝนหยุดตกแต่ว่าก็ครึ้มๆ อยู่ ต้องเร่งสูบน้ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
อนุกูล : ถูกต้องครับ จะต้องเอาน้ำออกให้มากกว่าน้ำที่ไหลเข้ามา แล้วก็ผมถามน้องที่เข้าไปอยู่ในทีมบอกว่าระดับน้ำขึ้นประมาณ 10 ซม. นั่นหมายความว่าอัตราการสูบออกมันยังไม่บาลานซ์กับน้ำที่เข้ามา สองคือผมเช็ตพยากรณ์อากาศ ตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไปจะเริ่มมีฝนมากขึ้นแต่ว่าอาจจะไม่หนักมากครับ ต่อเนื่องไปยังไปจนถึงวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน
พัฒน์พงศ์ : เราฟังข้อมูลจากคุณอนุกูลกันนะครับ ขอขอบคุณคุณอนุกูลมากครับ



ประวัติส่วนตัวของ ‘อนุกูล สอนเอก’ ที่บันทึกไว้ในบล็อก
(https://www.blogger.com/profile/08014970556854730472)
เป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับการผจญภัยทุกรูปแบบ การใช้ชีวิตการแจ้ง รวมไปถึงการสำรวจทางด้านภูมิศาสตร์ มีความชำนาญการผจญภัยหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น ปีนหน้าผา ปีนภูเขาสูง พายเรือคยัคล่องแก่ง เรือยาง ยิงธนู จักรยานเสือภูเขา การกู้ภัยระบบเชือกและที่สูง การใช้แผนที่เข็มทิศ การค้นหาและกู้ภัยในป่า และการกู้ภัยทางน้ำ ปัจจุบันเป็นครูฝึกชุดกู้ภัยพิเศษ จ.นครราชสีมา ผ่านการอบรมโค้ชคยัคสลาลอมจากฝรั่งเศส เทคนิคการปีนภูเขาสูงจาก Napal เคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าทีมไทยไปปีนเอเวอร์เรสต์ปี 2007 และกำลังทำสถิติพายเรือคยัคที่ไกลที่สุดในเมืองไทยบนเส้นทางกว่า 4000 กม.ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา

หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 'ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน' 
ขอขอบคุณบทสัมภาษณ์จากรายการ ‘สนามข่าว 101’ ทางสถานีวิทยุ FM 101
ขอขอบคุณภาพจาก
http://exploreroneteam.blogspot.com/2011/05/1.html

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE